แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ฟื้นฟูพระพุทธศาสนา แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ฟื้นฟูพระพุทธศาสนา แสดงบทความทั้งหมด

ป้าย...วันนี้วันพระ


วันนี้หลวงพ่อขอพูดเรื่องป้าย “พรุ่งนี้วันพระ” กับ “วันนี้วันพระ” ป้ายจะมี ๒ ด้าน ด้านหนึ่งเขียนไว้ว่า “พรุ่งนี้วันพระ” อีกด้านหนึ่งเขียนว่า “วันนี้วันพระ ทำใจให้เข้าถึงพระในตัว”  ป้ายนี้จะเป็นแสงสว่างให้กับทุกคนที่เขาได้มาพบเห็น
มีหลวงปู่รูปหนึ่งอายุ ๘๐ ปีเศษ พอท่านได้เห็นป้าย “วันนี้วันพระ” ที่ต่างจังหวัด ท่านบอกว่า  ปีติจนน้ำตาไหล
วันพระเมื่อก่อน ๔๐ ปีที่ผ่านมา ตอนที่ท่านอายุ ๒๐ ถึง ๔๐ ปี ชาวพุทธยังให้ความสนใจเรื่องวันพระกันอยู่ วัดวาอารามคึกคักไปด้วยพุทธศาสนิกชนมาบำเพ็ญบุญ มาฟังธรรม จำศีลทำภาวนากัน  แต่ ๔๐ ปีหลังนี้ท่านบอกว่า ไม่เคยเห็นเลย ท่านก็รู้สึกเสียดายว่าภาพเก่า ๆ ที่ดีงามนั้นจะสูญหายไปจากเมืองไทยซึ่งเป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนาของโลก หมายถึงว่าจะสูญไปจากชาวโลก และสูญไปจากโลกใบนี้ด้วย พอท่านเห็นป้ายนี้กลับมาใหม่ถึงกับน้ำตาไหล ท่านบอกว่าในบั้นปลายชีวิตของท่านก่อนจะมรณภาพได้ชื่นใจเห็นป้ายนี้ก็คุ้มแล้ว   นี่ก็เป็นคำรำพึงของพระผู้เฒ่า ผู้รู้ราตรีนานผ่านโลกมามากได้รำพึงออกมา

ลูกทุกคนเกิดมาต้องช่วยกัน
ปฏิวัติพัฒนาโลกที่มืดมัวให้ใสขึ้น
ให้เป็นโลกแก้วให้ได้
สิ่งใดก็ตามที่ทำให้โลกใสเป็นแก้วได้ สิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ลูกทุกคนต้องมีจิตสำนึกในการที่จะร่วมมือร่วมใจกันทำให้ได้ในยุคของเรา  เราเป็นนักสร้างบารมีต้องไวต่อการสร้างบารมี เห็นอะไรที่เป็นทางมาแห่งบุญก็รีบฉกฉวย ก่อนจะถูกช่วงชิงชีวิตไป เราจึงควรชิงช่วงชีวิตตอนนี้มาสร้างบารมี
หลวงพ่ออยากให้ป้ายนี้อยู่หน้าบ้านของลูกผู้มีบุญทุกคน เพื่อที่จะแจ้งให้ชาวพุทธที่หลงลืมสิ่งที่ดีงามนี้ ได้หวนย้อนกลับคืนมาถึงในวันที่โลกยังใสอยู่ เพราะฉะนั้นนำป้ายไปติดที่หน้าบ้าน ๒ วัน ก่อนวันพระวันหนึ่ง และวันพระวันหนึ่ง
หลวงพ่อคิดว่า ใครได้เห็นป้ายนี้แล้ว จะเกิดแรงบันดาลใจในการที่จะระลึกนึกถึงพระรัตนตรัย เมื่อใดที่สิ่งเหล่านี้ย้อนคืนกลับมาสู่ในใจของชาวพุทธอีก วันที่สดใสก็จะกลับคืนมา ลูกหลานของเราจะได้รับประโยชน์ และจะเป็นทางมาแห่งบุญของพวกเราด้วย ในฐานะที่เป็นผู้ให้แสงสว่างแก่โลก
คุณครูไม่ใหญ่

อาทิตย์ที่ ๖  ตุลาคม  .. ๒๕๔๕
11

ทำอย่างไรให้ชีวิตหลังเกษียณ เป็นชีวิตที่สง่างาม และทรงคุณค่า (วิธีแก้วัดร้างให้เป็นวัดรุ่ง)



“วัดร้าง” คือวัดที่เคยรุ่งในอดีต แต่ต่อมาเมื่อพุทธบริษัท ๔  ละเลยคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  สิ่งเหล่านี้ก็เลือนลางกันไป  วัดนั้นก็เลยไม่มีพระ กลายเป็นวัดร้างไปในที่สุด
วิธีแก้ไขวัดร้าง...แก้ไม่ยาก
ก็แค่เอาพระไปอยู่ในวัดนั้น
จากวัดร้างก็จะกลายเป็น...วัดรุ่ง
ผู้ที่ปลดเกษียณแล้ว  ผ่านชีวิตทางโลกมามาก ตั้งแต่จบการศึกษา ทำการงาน ผ่านการเป็นเจ้าคนนายคน ได้รับใช้สังคมกันมายาวนาน เมื่อถึงเวลาปลดเกษียณตามที่กำหนดกฎเกณฑ์เอาไว้บางแห่ง ๖๐ ปี บางแห่ง ๕๕ ปี หรือบางแห่งมีการเออลี่รีไทร์ (Early Retire) เพื่อจะเอาเวลาที่ยังพอมีเรี่ยวมีแรงมาทำสิ่งที่ดีงาม
สิ่งที่ดีที่สุดในความคิดของครูไม่ใหญ่มีความเห็นว่า
ทุกชีวิตต้องไปสู่ปรโลก   เมื่อปรโลกมีคติ  ๒ ทาง คือ สุคติและทุคติ  ซึ่งคติทั้งสองยาวนานมาก  มีทุกข์ก็ทุกข์นาน  มีสุขก็สุขนาน  และเขาตัดสินกันที่ความหมองความใสของใจ
เพราะฉะนั้น ชีวิตหลังปลดเกษียณ ควรจะเป็นช่วงที่ทำใจให้ใส ๆ ให้บริสุทธิ์  ฟื้นฟูระบบกล้ามเนื้อที่ไปหมักหมมกับสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์มาตลอด  ซึ่งจะมีผลในตอนใกล้ละโลก ทำให้ใจไม่ผ่องใส  จะต้องมาเคลียร์ระบบประสาทกล้ามเนื้อ และกระบวนความคิด คำพูด การกระทำ  ด้วยการระลึกนึกถึงพระรัตนตรัย  นึกถึงบุญ  สวดมนต์ไหว้พระ  เจริญภาวนา  ศึกษาธรรมะ  ฝึกฝนอบรมตนเองและสั่งสอนผู้อื่น  ใจจะได้ผ่องใส พอถึงช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเข้าสู่สมรภูมิศึกชิงภพปิดงบดุลชีวิต ก็จะได้ไปแบบผู้ที่มีชัยชนะ ไปสู่สุคติโลกสวรรค์
ดังนั้นชีวิตช่วงสุดท้าย หลังจากปลดเกษียณแล้ว ควรจะไปบวชกันทั้งหญิงทั้งชาย  ผู้หญิงบวชใจแทน  ทำบุญตักบาตร  สวดมนต์ไหว้พระ  เจริญภาวนา  ไปบำรุงวัดวาอาราม  ช่วยปัดกวาดเสนาสนะ  ส่วนผู้ชายก็บวชเลย  บวชแล้วก็กราบลาพระอุปัชฌาย์ ขออนุญาตท่านมาอยู่วัดร้าง
เมื่อมาอยู่วัดร้าง ก็ดูแลทำความสะอาดกันไป ทั้งทำความสะอาดกาย วาจา ใจ ทั้งทำความสะอาดจีวร เสนาสนะ อาวาส ลานวัด โบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ ห้องน้ำ ห้องส้วม เอาไว้เป็นที่ต้อนรับแขกผู้มาเยือน 
เราเริ่มทำกันไปก่อนได้แค่ไหนแค่นั้น แล้วเดี๋ยวลูกหลานของเรา ใครจะปล่อยให้พ่อ ให้ปู่ ให้ตา ลำบากอย่างนั้น  เขาจะได้มีโอกาสเข้าวัดมาสนับสนุน  ไปทำความบริสุทธิ์กายวาจาใจ ได้ทำไวยาวัจมัย  ช่วยเหลือกิจการงานของพระศาสนา  ได้มาบำเพ็ญบุญ  เดี๋ยวคนโน้นเข้า คนนี้เข้า  ก็จะมีแต่สิ่งดี ๆ เกิดขึ้นตามมา  โดยเริ่มต้นกันทีละรูป สองรูป สามรูป  แล้วจะเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ
จะเป็นความชราที่สง่างาม และจะเป็นการสืบทอดอายุพระศาสนา วัดนั้นก็จะถูกฟื้นฟูให้เป็นแหล่งแห่งเนื้อนาบุญ  เป็นที่บำเพ็ญบุญ  บุญได้จากที่ผู้บวชตั้งใจบวชเป็นพระแท้ แม้บวชเพียงวันเดียวก็ได้ชื่อว่าเป็นเนื้อนาบุญ
โลกขาดเนื้อนาบุญไม่ได้ ถ้าทำบุญกับเนื้อนาบุญ จะช่วยย่นระยะทางไปสู่พระนิพพานให้สั้นลง  และผลบุญที่ทำถูกเนื้อนาบุญจะส่งผลเกินควรเกินคาดกว่าทำกับสิ่งที่ไม่ใช่เนื้อนาบุญ  
วัดตรงนั้นก็จะเป็นแหล่งแห่งความรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  เป็นความรู้วิชชาชีวิตที่เราจะต้องได้ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิต  ซึ่งไม่มีสอนในสถานที่ใดที่เหมาะสมเท่ากับที่วัด เพราะบรรยากาศเหมาะ มีโบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ  มีพระประธาน มีพระธรรม มีพระสงฆ์
ชาวบ้านที่อยู่รอบ ๆ วัด เขาก็จะได้มีแหล่งตักตวงบุญ  ตักตวงความรู้  และเป็นแหล่งที่จะทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์อีกมากมาย  ลูกหลานของเราก็จะได้มีโอกาสไปบวช ไปได้รับการการอบรมบ่มนิสัย  ปลูกฝังขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงาม  พอวัดนั้นมีพระอยู่  เดี๋ยวก็จะชักชวนกันม
ถ้าทำกันได้อย่างนี้ แค่ปีเดียวจากวัดร้างก็จะกลายเป็นวัดรุ่ง แล้วจะเกิดประโยชน์อย่างยิ่ง วัดจะเป็นสถานที่อบรมบ่มนิสัยทุก ๆ ชีวิตในสังคม ให้อยู่เย็นเป็นสุข เพราะฉะนั้นไม่ควรจะให้มีวัดร้าง แต่ควรเป็นวัดรุ่งหมดทั่วประเทศไทย

คุณครูไม่ใหญ่
๑๒  มิถุนายน  พ.ศ. ๒๕๔๖



3

ต้องฝึกตัว


ต้องฝึกตัว
*************
เราจะต้องฝึกตัวของเราให้มากกว่าใคร ๆ ที่เขาฝึกตัว
เพราะเราเป็นผู้ที่จะไปฟื้นฟูพระพุทธศาสนา
ให้กลับมาเฟื่องฟูเหมือนย้อนยุคสมัยพุทธกาล
ให้ทำประหนึ่งว่า
พระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่
นึกทุกลมหายใจเข้าออก
แล้วเราจะมีแรงใจที่จะฝึกฝนพัฒนาตนเองให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป
 *************
คุณครูไม่ใหญ่
8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
11

ติดป้าย...วันนี้วันพระ



มีเรื่องหนึ่งน่าชื่นชนอนุโมทนา  กัลยาณมิตรพรเลิศ  ตันมานะธรรม
ท่านได้ไปทำวันพระให้มีความหมายขึ้น  ซึ่งหลวงพ่อนึกไม่ถึง  แล้วก็ดีมาก ๆ คือ
วันโกน (ก่อนวันพระหนึ่งวัน) ท่านทำป้ายตัวใหญ่ ๆ เขียนไว้ว่า “พรุ่งนี้วันพระ” ติดเอาไว้ที่หน้าบ้าน
พอรุ่งขึ้นเป็นวันพระ ท่านก็เอาป้าย “วันนี้วันพระ” มาติดไว้
พร้อมกันนั้นก็ตั้งโต๊ะเล็ก ๆ แล้วนำพระพุทธรูป ดอกไม้ธูปเทียนมาตั้งไว้บนเสื่อ  เผื่อใครมีกุศลศรัทธาก็จะไปกราบไหว้พระพุทธรูปที่ตั้งอยู่บนโต๊ะหมู่นั้น  ปรากฎว่ามีจริง ๆ ด้วย
สาธุชนผู้มีบุญเดินผ่านไปผ่านมาเห็นเข้า สะดุดตาสะดุดใจ เกิดกุศลจิตขึ้นมาไปคุกเข่าก้มลงกราบ  รู้สึกดีมากเลย  ท่านก็เลยส่งภาพนี้มาให้ดู  เห็นแล้วชื่นอกชื่นใจ
แม้ว่าร้านของท่านติดอยู่กับร้านคาราโอเกะ  แต่ท่านไม่ได้กังวลเลย  เพราฉะนั้นกัลยาณมิตรพรเลิศ  ตันมานะธรรม ทำสิ่งนี้แล้ว ดีมาก  หลวงพ่ออนุโมทนาด้วย 
เทวดาที่เขาดูแลเขตนี้ก็คุยต่อ ๆ กันไป ชื่อเสียงโด่งดังไปในหมู่ของเทวดาชาวสวรรค์แล้ว  ที่วันนี้วันพระ กระตุ้นเตือนจิตใจของชาวพุทธทั้งหลายให้ตื่นตัว เห็นความสำคัญ
ได้ยินว่าที่ต่างจังหวัด มีหลายจังหวัดเริ่มมีการจุดประทีปในวันพระกันแล้ว ในกรุงเทพก็เริ่มแล้วเช่นกัน  ถ้าใครเริ่มจุดแล้ว ก็ขอชื่นชม อนุโมทนาผู้ให้แสงสว่างต่อโลกจ้ะ

คุณครูไม่ใหญ่
๑๙  กันยายน  พ.. ๒๕๔๕


(หมายเหตุ: กัลยาณมิตรพรเลิศ  ตันมานะธรรม ถ้าหากพิมพ์ชื่อนามสกุลไม่ถูกต้อง กราบขออภัยมา ณ โอกาสนี้ด้วย / admin)
0

Facebook