แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ธัมมชโย แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ธัมมชโย แสดงบทความทั้งหมด

#วอนสื่อมวลชน..ได้โปรดอย่าทำลายหัวใจชาวพุทธ


นักข่าวมีเสรีภาพในการนำเสนอข่าว อันนี้ถูก แต่ต้อง "พอดี" ต้องอย่าเหลิงเจิ้งเรื่อยเปื่อย จนกระทั่งเกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงกับบุคคลที่พาดพิงถึงหรือกับสังคม

พอดี ดูตรงไหน?
ดูว่า มันเหมาะมันควรไหม ถ้าเหมาะควรก็ทำไปเลย!!
ถ้าเรื่องจริง มีประโยชน์ เขียนไป
เรื่องจริง แต่ไม่เกิดประโยชน์ ไม่เขียน 
เรื่องจริง มีโทษ ไม่เขียน
ถ้ายิ่งเรื่องไม่จริง ยิ่งไม่ควรเขียน

ดูว่าอะไรถูกผิด อาจดูได้ไม่ยาก แต่เหมาะควร เราจะเอาอะไรมาเป็นเกณฑ์ พระสารีบุตรได้กล่าวเรื่องนี้ไว้ว่า

สิ่งไรที่เราคิด พูด หรือทำ น้อมไปในทางกุศลธรรม คือยังกุศลธรรมที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น หรือที่เกิดขึ้นแล้วทำให้เจริญยิ่งขึ้น อย่างนี้เรียกว่า เหมาะควร
แต่สิ่งไรตรงกันข้ามกัน น้อมไปทางอกุศลธรรม ทำให้เกิดเป็นภาพลบติดในใจ เกิดปัญหาสังคม เกิดความทุกข์ หรือเกิดวิบากกรรมอย่างนั้นไม่เหมาะไม่ควร
เพราะฉะนั้น สิ่งใดที่น้อมไปทางกุศลธรรม ยกระดับจิตใจให้สูงส่งขึ้น สิ่งนั้นควรทำ

โดยเฉพาะเรื่องพระศาสนา เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก เพราะทุกชีวิตที่เกิดมามีความทุกข์นะ ตั้งแต่ทุกข์จากการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ซึ่งเป็นทุกข์ประจำ กับทุกข์ที่จรมาอีกมากมาย ประสบสิ่งที่ไม่เป็นที่รัก ปรารถนาอะไรไม่ได้สิ่งนั้นก็ทุกข์ หรือพลัดพรากจากสิ่งที่รัก ทุกข์จากการเสื่อมลาภ เสื่อมยศ มีคนนินทา มีทุกข์กายทุกข์ใจอะไรอีกสารพัด เยอะแยะไปหมด

เมื่อชีวิตมนุษย์มีทุกข์ เขาย่อมหาที่พึ่ง ที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ศาสนาหรือคำสอนจากพระศาสดาของทุก ๆ ศาสนานั่นแหละจะเป็นที่พึ่ง ที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของมวลมนุษยชาติ เพราะฉะนั้นพระศาสนาเป็นสิ่งที่ไม่ควรแตะอย่างยิ่ง เพราะเป็นหนึ่งในสถาบันหลัก และเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจดังกล่าว แล้วความเป็นจริงแล้ว เขาก็มีการปกครองไปตามลำดับ


พระอาจารย์จันทิมา พระพม่าที่อยู่เกาหลี ท่านเล่าให้ฟังว่า
ที่ประเทศพม่า มีการห้ามออกสื่อที่เป็นการตำหนิพระรัตนตรัยอย่างเข้มงวด หรือแม้แต่ในประเทศเกาหลีเองก็ตาม ตลอดเวลาที่ผ่านมา กระผมติดตามข่าวสารที่นี่มาตลอด พบว่าเรื่องที่จะมีการออกสื่อในหน้าหนังสือพิมพ์ หรือสื่อต่าง ๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อโจมตี ดูถูก เหยียดหยาม เหยียบย่ำพระพุทธศาสนาให้ตกต่ำ จะไม่มีเกิดขึ้นในเกาหลี

แถมยังมีกฎหมายคุ้มครอง โดยไม่ให้ออกสื่อใด ๆ เพื่อมุ่งทำลายศรัทธาของพุทธศาสนิกชน ห้ามตำหนิ ใส่ร้าย ป้ายสี จ้วงจาบ โจมตีพระและพระพุทธศาสนา แต่หากมีการทำไม่ดีเกิดขึ้นก็จะมีการจัดการเองในส่วนที่เกี่ยวข้องที่ปกครองกันมาตามลำดับ แต่ไม่ใช่นำมาขยายเพื่อให้ประชาชนเสื่อมศรัทธาในพระพุทธศาสนา

แล้วยังมีผู้ดูแลกฎหมายศาสนาของภาครัฐคอยเช็คและดูแลสื่อ เพราะไม่อนุญาตให้ออกข่าวใด ๆ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งทำลาย หรือทำร้าย หรือว่าร้ายพระพุทธศาสนา และถือว่าข่าวศาสนาจะส่งผลต่อจิตใจของประชาชน

หรือแม้แต่เวลาที่ต่างศาสนาเข้ามาเผยแผ่ที่เกาหลี ก็ห้ามออกสื่อที่จะมาเขียนว่าร้ายพระพุทธศาสนาเช่นกัน ในทางตรงกันข้าม ที่เกาหลีจะมีหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาโดยเฉพาะ ซึ่งจะมีข่าวดี ๆ ที่เกี่ยวกับธรรมะ การจัดงานบุญของวัดต่าง ๆ การปฏิบัติธรรม หรือประสบการณ์ทางธรรมของพระรูปต่าง ๆ ไม่ต่ำกว่า ๑๐ ฉบับ เพื่อยกระดับใจให้สูงขึ้น หรืออย่างน้อยก็ดับทุกข์ของชีวิตในใจของแต่ละคนได้ในแต่ละวัน

คือมีข่าวดีออกมารายวัน เพราะคนมีทุกข์รายวัน เพราะฉะนั้นหนังสือพิมพ์ที่เกี่ยวกับพุทธศาสนาก็มีรายวัน เขียนแนะวิธีการดับทุกข์ ไม่ใช่เขียนแนะวิธีการสร้างทุกข์ หรือขยายทุกข์ ขยายความเครียด ระบาดกันไปทั่วสังคมไปหมดเลย จนกระทั่งไม่ต้องไปทำอะไร ในใจของแต่ละคนถูกยัดเยียดด้วยข่าวที่ทำให้เร่าร้อน ตั้งแต่ตื่นกระทั่งหลับ วิพากษ์วิจารณ์กันไปตั้งแต่ในครอบครัว ออกมานอกบ้าน ไปโรงเรียน ไปที่ทำงาน ในทุกหนทุกแห่ง ความเครียดมันก็ระบาดไปทั่วสิ ไม่เกิดประโยชน์อันใดเลย

ท่านยังกล่าวอีกว่า กระผมประหลาดใจ ตอนที่กระผมเคยอยู่เมืองไทย ทั้งที่เมืองไทยเป็นเมืองพุทธ ทั้งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ก็ถือเป็นหัวใจของประเทศ แต่ทำไมถึงเห็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ลงแต่เรื่องไม่ดีของพระ แล้วก็ขยายความมุ่งโจมตี จนคนเสื่อมศรัทธา ทำไมต้องทำลายหัวใจของเราเอง ตอนแรก กระผมอ่านก็งง ๆ ตอนหลัง ๆ ก็เลยไม่อยากจะสนใจอ่านอีก ก็งงอยู่ว่า จะทำลายพระก็ทำลายกันง่าย ๆ แบบนี้เอง นี่ท่านว่าของท่านออกมาอย่างนี้

คุณครูไม่ใหญ่

วันพุธที่  ๑๕  กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๙



พุทธศาสนาเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
เป็นที่พึ่งที่ระลึกที่แท้จริง
ของมวลมนุษยชาติ
เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวพุทธ
ชีวิตมนุษย์มีทุกข์มากเกินพอแล้ว
ได้โปรด...
อย่าทำลายศรัทธา
อย่าทำลายหัวใจชาวพุทธ
อย่าทำลายหัวใจของเราเอง




1

เล็ง ยิง ปรับศูนย์ สูตรการทำงานให้สำเร็จ



ในการทำงานทุกอย่าง อย่าหวังว่าต้องวางแผนให้ดีเยี่ยม รอให้สมบูรณ์พร้อมก่อนแล้วจึงลงมือทำ อย่างนี้ไม่ได้ เพราะว่ามันจะไม่ทันเวลา และจริงๆ แล้ว แม้จะวางแผนไว้ดีอย่างไร ถึงคราวลงมือปฏิบัติ ก็ยังต้องปรับแผนให้เข้ากับสถานการณ์จริงอยู่ดี
ดังนั้นจึง อย่ารีรออยู่ จงลงมือทำ แล้วปรับไปพร้อมๆ กัน
เล็งให้ตรงเป้า แล้วยิงออกไป ตรวจสอบว่าตรงเป้าหรือไม่ ถ้ายังก็ปรับศูนย์เสียใหม่ให้เข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้น ถ้าหลุดไปทางซ้ายมาก ก็ปรับคืนมาทางขวา
ยิงออกไปแล้ว จึงจะรู้ว่ายังไม่ตรงแค่ไหน อย่างไร
หากยังไม่ยิง มัวแต่เล็ง ก็ไม่รู้ผล
และถึงจะเล็งดีอย่างไร ก็ยังต้องปรับศูนย์ เวลายิงไปแล้วอยู่นั่นเอง
“เล็ง ยิง ปรับศูนย์ คือ สูตรการทำงาน”

คุณครูไม่ใหญ่
0

การทำงานเป็นทีม


เวลาเราทำงาน
เมื่อรุกไปข้างหน้า
อาจจะพบกับอุปสรรคต่างๆ นานา

เช่น ความไม่เข้าใจของเพื่อนร่วมงาน
คำพูดของบุคคลบางคน
ความไม่พร้อมของสถานที่ อุปกรณ์
...ฯลฯ
อันอาจเป็นเหตุให้กระทบกระทั่ง

เมื่อเจอพายุของการงานหนักมาก
จนเราไม่อาจจะรุกแล่นเรือไปข้างหน้าได้
ก็ให้รักษาที่มั่น
ที่เรือจะจอดพักไว้ได้
คือ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ นี้เอง
ให้รักษาใจของเราไว้
ณ ฐานที่มั่นของใจไว้ให้มั่นคง

           คุณครูไม่ใหญ่
0

อานิสงส์การพิมพ์พระ



หลวงพ่อจัดกิจกรรมให้พิมพ์พระ
นอกจากจะเป็นทางมาแห่งบุญบารมีของเราแล้ว

ยังต้องการฝึกให้ใจเย็นด้วย
ไม่มีความรู้สึกว่า เรารอคอยนาน
เพราะในระหว่างที่ยืนรออยู่นั้น
เราก็สวดสรรเสริญ
คุณของพระรัตนตรัยไปด้วย
เพื่อให้ใจชุ่มเย็น

นอกจากนี้ยังเป็นการฝึกความประณีต
ด้วยของหยาบ ๆ ก่อน 
โดยยึดหลักการว่า ถ้าหยาบไม่ละเอียด
แล้วสิ่งที่ละเอียดจะละเอียดได้อย่างไร 
นั่นก็เป็นแบบฝึกหัดของเรา เราก็ฝึกไป

ฝึกความช่างสังเกต
โดยสังเกตดูว่า
วัสดุสิ่งของเขาจัดวางไว้อย่างไร
เมื่อเราพิมพ์พระเสร็จแล้ว
เราก็ต้องจัดวางให้เหมือนเดิม

เพื่อที่จะมีอานิสงส์ในการ
เป็นคนช่างสังเกตในเวลาปฏิบัติธรรม

และเป็นการให้เกียรติกับผู้ที่มาภายหลัง
จะได้มีความรู้สึกว่า เป็นคนแรกเสมอ
จะมีอานิสงส์ทำให้เรา
ได้รับการยกย่องในทุกสถาน 

เราได้สัมผัสละอองแห่งการตรัสรู้ธรรม
ของพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ
เราก็จะมีอานิสงส์ในการเข้าถึงธรรม
เช่นเดียวกับที่หลวงปู่ของเรา ท่านได้เข้าถึง

คุณครูไม่ใหญ่

16 สิงหาคม พ.ศ. 2545
-----------------------------
ขอเรียนเชิญผู้มีบุญทุกท่านมาวัด
ร่วมพิธีพิมพ์พระของขวัญ “รุ่นบรรลุธรรม”
ตั้งแต่วันนี้ - 16  ตุลาคม พ.ศ. 2559
ณ ลานหน้าหอฉันคุณยายอาจารย์
และสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตร 1ล้านจบ
บูชาพระมหาธรรมกายเจดีย์
พระมหาเจดีย์พระพุทธเจ้าล้านพระองค์ 24 น.

0

ต้องหักดิบเลิก...มิจฉาอาชีวะ..ด่วนเลย !!!


สมบัติที่ได้จาก "มิจฉาอาชีวะ"
ตอนแรกดูเหมือนมันจะ
ทำให้เรามี "ความสุข"
แต่ว่ามันจะทำให้เรา
มีความทุกข์ในภายหลัง !!!

ต้องหักดิบเลิกจากสิ่งเหล่านี้
แล้วหันมาประกอบ "สัมมาอาชีวะ"
ด้วยความขยันหมั่นเพียร
และสั่งสมบุญทุกบุญ
ชีวิตก็จะดีขึ้น

เงินที่ได้มาจากมิจฉาอาชีวะ
แม้เอาไปทำบุญ
ทำมากก็ได้นิดนึง
เพราะเป็นทรัพย์ที่ได้มา
จากความหายนะของเพื่อนมนุษย์
เพราะมันมีวิบัติเจืออยู่ในนั้น
เหมือนเอาน้ำโคลนมาดื่มอย่างนั้น

คุณครูไม่ใหญ่

๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๘
0

พิมพ์พระด้วยใจที่นุ่มนวล


ก่อนที่จะพิมพ์พระ
ให้เราสำรวมใจ นึกถึงบุญ
นึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เราจะได้พิมพ์พระเอาไว้สืบอายุพระศาสนา

ให้ทำด้วยความนุ่มนวล ประณีต
ฝึกความใจเย็น
และช่างสังเกต
สังเกตทุกอย่างเขาจัดวางอย่างไร
เสร็จแล้วเราก็ต้องวางอย่างนั้น
แล้วเวลากดก็ต้องไม่มีเสียงเลย

ทำประหนึ่งว่าเราอยู่ต่อหน้า
เฉพาะพระพักตร์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
แล้วก็ทำไปด้วยความนุ่มนวล

มันก็ไม่ช้าหรอก
แล้วเราก็จะได้กลับบ้านด้วยความเบิกบาน
เอาบุญไปฝากทุกคน
ถึงแม้จะเอาบุญไปฝากทุกคนที่บ้าน
จะช้ากว่าสัก ๕ นาที 
แต่ว่าเราได้ความประณีต ความละเอียดของใจ
ซึ่งจะมีอานิสงส์ในการปฏิบัติธรรมะ
จะทำให้ใจของเรา
ค่อย ๆ ละเอียดลุ่มลึกไปเรื่อย ๆ
เดี๋ยวก็เข้าถึงธรรมอย่างสบาย ๆ
คุณครูไม่ใหญ่
3 สิงหาคม พ.ศ. 2545



ขอเรียนเชิญผู้มีบุญทุกท่านมาวัด
ร่วมพิธีพิมพ์พระของขวัญ “รุ่นบรรลุธรรม”
ตั้งแต่วันนี้ - 16  ตุลาคม พ.ศ. 2559
ณ ลานหน้าหอฉันคุณยายอาจารย์
และสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตร 1ล้านจบ
บูชาพระมหาธรรมกายเจดีย์
พระมหาเจดีย์พระพุทธเจ้าล้านพระองค์
0

การแก้แค้นที่ถูกวิธี


การแก้แค้น..ไม่ใช่การเอาคืนอย่างสาสม
แก้แค้นอย่างนี้ ยิ่งเป็นการผูกโกรธ  
ยิ่งผูก ก็ยิ่งทุกข์  ยิ่งยุ่งเหยิง

คำว่า แก้แค้น
ครูไม่ใหญ่ว่าหมายถึง
ความแค้นที่ผูกไว้กับเขาถูกแก้ออก

แก้ คือทำให้หลุด หรือทำให้คลาย
เช่น เราแก้เชือกที่ผูกมัดอะไรออก
หรือแก้เชือกห่อก๋วยเตี๋ยวออกมาเปิดกินกัน เป็นต้น

ดังนั้น แก้แค้น จึงหมายความว่า
แก้ให้ความแค้นคลายออก
จนหายโกรธหายแค้นไปเลยด้วย “สันติวิธี”

พอแก้ออกได้ ความเจ็บใจ คับใจก็หายไป
ใจก็จะสบาย ใจจะเย็น
สุดท้ายจะมีความสุขกันทุกฝ่าย
อย่างนี้จึงจะเรียกได้ว่า “แก้แค้น”

คุณครูไม่ใหญ่
๑๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๕
0

มาปลูกเมตตาธรรมในใจกันเถอะ


 
จะปรารถนาดีกับใคร
ก็ให้ปรารถนาดีอย่างแท้จริง
ด้วยความจริงใจ
ไม่ใช่แสร้งทำ
หรือมีมายา
ไม่มีเหลี่ยมไม่มีคูกับใครทั้งสิ้น

เป็นคนซื่อคนตรง
ปรารถนาดีกับใคร
ก็ปรารถนาดีกับเขาจริง ๆ
อยากให้ทุกคนเขามีความสุขจริง ๆ
ให้อภัยก็ให้อภัยกันจริง ๆ

เจอหน้าเขาก็พูดกับเขาก่อนได้
ยิ้มแย้มแจ่มใสกับเขาก่อนได้

นี่คือเมตตาธรรม
ที่เราจะต้องปลูก
เข้ามาในใจของเรา

คุณครูไม่ใหญ่

๑๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๑
0

Facebook