แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ วัดพระธรรมกาย แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ วัดพระธรรมกาย แสดงบทความทั้งหมด

กรณียกิจแห่งชีวิต



การปฏิบัติธรรม 
คือ กรณียกิจที่แท้จริง
ของการเกิดมาเป็นมนุษย์  
เป็นเป้าหมายของชีวิต  

เป็นกิจที่ควรทำอย่างยิ่งของมนุษย์ทั้งหลาย เป็นงานขจัดกิเลสอาสวะให้หมดสิ้นไป  เพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง  เป็นงานที่ทำให้เราได้รู้จักตัวเรา  และแผนผังชีวิตของเรา

การปฏิบัติธรรมควรทำทุกวัน ควบคู่ไปกับการทำมาหากิน หรือปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ ให้ภารกิจกับจิตใจไปด้วยกัน  การประกอบธุรกิจการงานก็เพื่อต้องการแสวงหาทรัพย์มาเลี้ยงสังขาร  และมาสร้างบารมี เราก็ทำไป แต่เราต้องรู้จักหลักของชีวิต และทำความเข้าใจว่า อะไรเป็นกรณียกิจ อะไรเป็น อกรณียกิจ แล้วให้ความสำคัญกับกรณียกิจให้มากๆ เพราะสิ่งนี้คือเป้าหมายชีวิตในการเกิดมาเป็นมนุษย์ในแต่ละภพชาติ

มนุษย์ส่วนใหญ่มักจะแสวงหาสิ่งไร้สาระ
นำติดตัวไปในภพเบื้องหน้าไม่ได้ 
แต่สิ่งที่เป็นสาระ  เป็นแก่นสารของชีวิต  นำติดตัวไปได้  
เรากลับไม่ให้ความสำคัญ  
ที่เป็นอย่างนี้เพราะ...บางคนไม่รู้  บางคนถึงรู้ แต่ไม่ทำ  

พราะฉะนั้น เราจะต้องให้ความสำคัญในการทำใจหยุดนิ่งให้เข้าถึงสิ่งที่มีจริงอยู่ภายใน

ตลอดเส้นทางสายกลางที่จะไปสู่ที่สุดแห่งธรรม  เป็นเส้นทางแห่งความสุขตลอดเส้นทาง ไม่มีเส้นทางไหนที่จะให้ความสุขเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ เท่ากับเส้นทางสายกลางนี้ ความสุขจะบังเกิดขึ้นทุกขั้นตอนของการเข้าถึง  ตั้งแต่สุขน้อย ๆ เพิ่มขึ้นไปเป็นสุขปานกลาง  จนกระทั่งถึงสุขอย่างยิ่ง

คุณครูไม่ใหญ่

อาทิตย์ที่ ๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๔
4

อานุภาพการเจริญพุทธานุสติ



การเจริญพุทธานุสติ คือ
การระลึกถึงพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์
เป็นสิ่งที่มีอานิสงส์ใหญ่
จะปิดประตูอบายภูมิ  ทำให้ไม่ต้องไปเกิดในนรก
ไม่ต้องไปเป็นเปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน
แม้ในปัจจุบัน  ถ้าเข้าถึงได้  หรือเพียงแต่นึกได้ตลอดเวลา
ก็ทำให้เรามีความสุข สดชื่น เบิกบานทันทีที่ระลึกถึง

 เมื่อระลึกจนเป็นชีวิตจิตใจ ทุกลมหายใจเข้าออก จนกระทั่งท่านมาปรากฏอยู่ในกลางใจเรา เห็นองค์พระได้ใสแจ่มตลอดเวลาแล้ว ย่อมมีอานุภาพยิ่งใหญ่ไม่มีประมาณ ใจเราจะผ่องใสเกลี้ยงเกลาตลอดเวลา  กระแสกรรมที่ทำมาในอดีตจะตามไม่ทัน  แม้ยังไม่หมดก็ตาม เหมือนเราขี่จรวดหรือนั่งเครื่องบินแต่กรรมนั้นขี่จักรยานหรือเดินด้วยเท้า  เพราะเมื่อจิตผ่องใสไม่เศร้าหมอง ก็มีสุคติเป็นที่ไป  หลังจากละโลกไปแล้ว  เราจะมีกายใหม่เป็นกายทิพย์ที่สวยงาม  มีรัศมีสว่างไสว  มีสมบัติอันเป็นทิพย์  มีวิมานและบริวารเกิดขึ้นมากมาย

กระแสบุญแห่งการระลึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้านี้มิใช่สิ่งเล็กน้อย  จะส่งต่อเนื่องกันไปเรื่อย ๆ เหมือนระลอกคลื่นที่ส่งต่อกันไปลูกแล้วลูกเล่า   เราจะไปเป็นสหายแห่งเทวดาเป็นเวลายาวนาน  และเมื่อถึงคราวที่ต้องมาเกิดในมนุษย์  ก็จะเกิดในตระกูลที่ดี  มีโภคทรัพย์สมบัติเพียบพร้อม รอคอยให้เราได้ใช้สร้างบารมี  และนำเราเข้าไปถึงกระแสธรรมได้ในที่สุด

ดังนั้น  ให้ตั้งใจเจริญพุทธานุสติ  นึกถึงพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์  โดยนึกถึงพระแก้วขาวใสบริสุทธิ์เป็นสิ่งแทนตัวพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  ทำใจให้ใสเยือกเย็น  นิ่ง หยุด  ให้ถูกส่วน  ประสานใจของเรากับพระผู้มีพระภาคเจ้าให้เป็นหนึ่งเดียวกัน  ให้ในใจเรามีแต่พระพุทธเจ้าตลอดเวลา  แล้วไม่นานสิ่งอัศจรรย์ก็จะเกิดขึ้นกับตัวของเรา .

คุณครูไม่ใหญ่

วันอาทิตย์ ๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๐
15

ภารกิจกับจิตใจต้องไปด้วยกัน





ต้องบริหารเวลาให้เป็น
จัดสรรเวลาให้ลงตัว
ให้มีเวลาว่างสำหรับแสวงหา
หนทางพระนิพพานของตนเองให้ได้
อย่างน้อยวันละชั่วโมงหรือสองชั่วโมงก็ยังดี

ส่วนเวลาอื่นที่เรามีภารกิจประจำวันที่ต้องทำ  ก็พยายามฝึกฝนทำควบคู่กับภารกิจนั้นไป เพราะภารกิจกับจิตใจต้องไปด้วยกัน ใครทำสองอย่างนี้ไปพร้อมๆ กันได้  ถึงจะเรียกว่า  บริหารเวลาเป็น  มีความตั้งใจที่จะทำความปรารถนาของเราให้สมหวัง ย่อมได้ชื่อว่าเป็นผู้สืบอายุพระพุทธศาสนา  เป็นเนื้อนาบุญอันเลิศแก่มนุษย์และเทวา  มีความรักพระนิพพาน  รักเพศบรรพชิตอย่างแท้จริง

ภารกิจกับจิตใจควรจะไปด้วยกัน  ไม่ควรเป็นสิ่งที่แย้งกัน  หรือเป็นข้ออ้างว่า  เราต้องบริหารกิจการงานสงฆ์  จะต้องเรียนหนังสือ  หรือจะต้องทำภารกิจที่หมู่คณะมอบหมายให้  เลยทำให้ไม่มีเวลา  หรือบางคนอ้างว่า  สุขภาพไม่แข็งแรง  ยังเจ็บ  ยังป่วย  ยังไข้  คอยให้หายป่วยแล้วค่อยแสวงหาหนทางพระนิพพานทำอย่างนี้ไม่ถูกนะ  เพราะเรามีเวลาของชีวิตที่จำกัดเหลือเกิน

คุณครูไม่ใหญ่
๑๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๓


0

ทางรอดของมนุษย์



ตอนนี้ทั่วโลกต่างก็มีสุขมีทุกข์กันไป
บางประเทศก็สุขมากทุกข์น้อย
บางประเทศก็ทุกข์น้อยสุขมาก
หรือทุกข์มากสุขน้อยสลับกันไป  ซึ่งเป็นเรื่องปกติธรรมดา...

ทางรอดของมวลมนุษยชาติ มีทางเดียวเท่านั้น
คือ ต้องมองกลับเข้าไปสู่ภายใน
หยุดใจให้ได้ แล้วให้เข้าไปถึงพระรัตนตรัยในตัว

อย่ามัวทะเลาะหรือขัดแย้งกัน
มองผ่านความแตกต่างเข้าไปถึงความเหมือนกันภายใน
นั่นแหละเป็นทางรอดของมวลมนุษยชาติ

ถ้าทุกคนทำอย่างนี้ โลกก็จะเกิดสันติสุขที่แท้จริง
เพราะฉะนั้น...ถึงเวลาแล้ว
ที่เราควรจะเลิกทะเลาะกัน แล้วก็หยุดใจเข้าสู่ภายใน

คุณครูไม่ใหญ่
๑๕  สิงหาคม พ.. ๒๕๕๐


7

สันติภาพโลกเกิดจากสันติสุขภายใน


ครูไม่ใหญ่ไม่อยากให้มนุษย์ตายฟรี  อยู่กันไปวัน ๆ  หรืออยู่กันไปอย่างงั้นเอง ไม่อยากให้มนุษย์มีชีวิตอยู่บนความทุกข์ทรมาน  แม้เราไม่อาจจะหลีกเลี่ยงปัญหาหรือแรงกดดัน ซึ่งสิ่งแวดล้อมมันเป็นอย่างนี้ก็ตาม  แต่เราสามารถหาแหล่งที่พักพิงของใจได้ภายในตัว  ด้วยวิธีที่ง่าย ตรง ลัด ประหยัดสุด ประโยชน์สูง ไม่ต้องลงทุน ไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรเลย นั่นคือ การทำสมาธิ
ถ้ามนุษย์ทุกคนในโลก
เข้าถึงธรรมภายในได้
สิ่งดี ๆ จะเกิดขึ้นกับโลกใบนี้
ครูไม่ใหญ่ยังยืนยันว่า สันติภาพของโลกต้องเกิดจากสันติสุขภายในของมวลมนุษยชาติ เพราะว่าเมื่อเข้าถึงสันติสุขภายในแล้ว ความคิดที่จะไปขัดแย้งกันหรืออะไรต่าง ๆ ก็จะหมดไป จะมีความรักและปรารถนาดีต่อเพื่อนมนุษย์อย่างแท้จริงเกิดขึ้น จะเกิดความรู้สึกอยากให้ อยากแบ่งปัน มากกว่าอยากเอา
คุณครูไม่ใหญ่
วันเสาร์ที่ ๖ ตุลาคม พ..  ๒๕๕๐





7

รู้ตัวไหมว่า...มีบุญมาก



ใครมาเกิดชาตินี้แล้วได้รู้จัก ฐานที่ ๗
คนนั้นถือว่า...เป็นผู้มีบุญมาก

                   เพราะฐานที่ ๗ เป็นทางที่พระพุทธเจ้า พระอรหันต์ทั้งหลาย ต่างสละทรัพย์สมบัติ ความสะดวกสบายต่างๆ ทางโลก แม้สมบัติจักรพรรดิที่จะบังเกิดขึ้นภายใน ๗ วัน  ก็มิได้ทรงอาลัยอาวรณ์ หรือติดใจในสมบัติจักรพรรดิเลย มีแต่ความเพียรอุตสาหะสร้างสมบ่มบารมีกันมานับภพนับชาติไม่ถ้วน เพื่อต้องการรู้จักฐานที่ ๗  ซึ่งเป็นต้นทางที่จะนำไปสู่พระนิพพาน
                   เพราะฉะนั้น การที่เราเกิดมาแล้วได้ยินได้ฟัง และได้ปฏิบัติเพื่อให้เข้าถึงฐานที่ ๗ นั้น ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ  แต่เป็นเพราะบุญในตัวที่เราได้สั่งสมมามีจำนวนมากนั่นเอง

คุณครูไม่ใหญ่
วันอาทิตย์ที่ ๒๓ สิงหาคม พ.. ๒๕๔๑



12

คือความเรียบง่ายภายใน




ครูสอนภาษาท่านหนึ่งกล่าวว่า  การเรียนภาษามันต้องง่าย ๆ ตรงไปตรงมา เพราะภาษาหรือประโยคคำพูด ไม่ได้เริ่มต้นมาจากนักปราชญ์ บัณฑิต หรือบัญญัติสวรรค์ แต่เริ่มต้นจากชาวบ้านธรรมดา คือ มีประธาน มีกิริยา แล้วก็มีกรรม ท่านก็ยกตัวอย่างว่า เช่น ฉันกินข้าว และหลังจากนั้นก็มีผูกประโยคกันให้ซับซ้อน ให้ดูเลิศหรูสละสลวยกันขึ้นมา แต่จริง ๆ ก็มีความหมายแค่ฉันกินข้าว
การปฏิบัติธรรมก็เช่นเดียวกัน
จริง ๆ แล้วมันเรียบง่าย สบาย ๆ
เข้าถึงได้โดยไม่ยาก
ทำใจให้อินโนเซนต์เหมือนเด็ก ๆ ง่าย ๆ
เดี๋ยวก็เข้าถึงได้
แล้วสิ่งที่เป็นความลับ เหลือเชื่อ เช่น เรื่องนรก สวรรค์ นิพพาน ก็จะถูกเปิดเผยออกมา สว่าง กระจ่าง เหมือนเราชักม่านแห่งความมืดในยามรัตติกาล ให้แสงสว่างแห่งดวงอาทิตย์ ได้โคจรทำความสว่างแก่โลก มันก็ง่าย ๆ แค่นั้นเอง

คุณครูไม่ใหญ่
๓๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๒

8

หน้าที่แห่งชีวิต


               
                การฝึกใจให้หยุดนิ่งเป็นหน้าที่อันยิ่งใหญ่สำหรับชีวิต  เพราะเป็นวิธีเดียวเท่านั้นที่จะขจัดความสงสัยเกี่ยวกับเรื่องราวในชีวิตของเราให้หมดสิ้นไปได้ และเป็นวิธีเดียวที่พระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ทรงปฏิบัติกันมา
                พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเวียนว่ายตายเกิดสร้างบารมีมาเป็นเวลายาวนาน  โดยมีวัตถุประสงค์จะแสวงหาหนทางพ้นทุกข์  เพื่อจะดับทุกข์  แล้วพบสุขอันเป็นอมตะ  พระองค์ทรงแสวงหามาตลอดระยะเวลาที่มาเกิดในโลกมนุษย์  เพราะทรงค้นพบว่า ไม่ว่าจะไปเกิดเป็นอะไรก็ตาม  ชีวิตล้วนแต่มีทุกข์ทั้งนั้น
                ครั้งเมื่อเป็นพระบรมโพธิสัตว์  บางพระชาติเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน  บางชาติเกิดเป็นชนชั้นต่ำ  เป็นชนชั้นกลาง  ชนชั้นสูง  เศรษฐี  มหาเศรษฐี  ก็เคยเป็นมาแล้วหรือแม้เกิดเป็นเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินก็เคยเป็นมาแล้วทั้งนั้น  และทรงเห็นว่าชีวิตอย่างนั้น ยังไม่พ้นทุกข์  ต่างมีทุกข์กันไปคนละแบบ 
                ทุกข์ของยาจกเป็นทุกข์เพราะไม่มี  ทุกข์ของเศรษฐีเป็นทุกข์เพราะไม่พอ  ทำให้เกิดการแก่งแย่งชิงดี  ทั้งทรัพย์สินเงินทอง ลาภ ยศ สรรเสริญ  วนเวียนกันอยู่อย่างนี้  จึงเป็นทุกข์อยู่ตลอดเวลา
                นอกจากทุกข์ประจำสังขาร คือ เกิดแก่เจ็บตาย แล้วยังมีทุกข์ที่จรมาเหมือนอาคันตุกะจรมาอีก ต้องวุ่นวายตั้งแต่เกิด ดำรงชีพอยู่ จนกระทั่งตายไป เป็นทุกข์อยู่ตลอดเวลาเลย เมื่อเห็นอย่างนี้พระองค์จึงแสวงหาหนทางที่จะพ้นจากทุกข์ แล้วก็ทรงพบว่าวิธีเดียวเท่านั้นที่จะทำลายความสงสัยเกี่ยวกับเรื่องชีวิตของพระองค์ได้ ก็คือ จะต้องรู้แจ้งเห็นจริงในเรื่องราวของชีวิต ซึ่งต้องเป็นความรู้ที่เกิดจากการเห็นแจ้งเท่านั้น
                การที่จะเห็นแจ้งได้นั้น ต้องอาศัยแสงสว่างในดวงจิต เป็นความสว่างที่ยิ่งกว่าดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาว หรือความสว่างใด ๆ ในโลกทั้งหมด ที่ไม่มีสิ่งใดกำบังได้ แสงสว่างแห่งดวงจิตจะเกิดขึ้นได้ ต่อเมื่อจิตบริสุทธิ์บริบูรณ์จริง ๆ ไม่มีความโลภ ความโกรธ ความหลง อยู่เลย พูดง่าย ๆ คือ ใจต้องใสบริสุทธิ์ ผุดผ่องจริง ๆ ความสว่างจึงจะเกิดขึ้น
                ความบริสุทธิ์จะมีมาได้ ทั้งจากการทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา แต่โดยรวบยอดแล้ว ใจต้องหยุดนิ่ง  ต้องพรากจากทุกสิ่ง ปล่อยวางหมด หยุดนิ่งอยู่ภายในศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ซึ่งเป็นแกนกลางของกาย แก่นของชีวิตและเป็นทางเอกสายเดียวที่จะนำไปสู่มรรคผลนิพพาน
                หากเราได้ศึกษาพระพุทธประวัติ  จะเห็นว่าทุกชาติ พระบรมโพธิสัตว์จะต้องปลีกตัวออกมาแสวงหาที่สงัดกาย สงัดใจ ฝึกทำสมาธิ ทำใจให้หยุดให้นิ่ง จนกระทั่งหมดอายุขัย  เมื่อละโลกแล้วบางชาติไปเป็นเทวดา  บางชาติเป็นพรหมอยู่นานทีเดียว  แล้วก็ต้องมาเกิดใหม่มาทำใจหยุดใจนิ่ง กลั่นใจ ให้บริสุทธิ์ซ้ำแล้วซ้ำอีก
                จนกระทั่งภพชาติสุดท้ายเมื่อบารมีเต็มเปี่ยมก็ได้บรรลุเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า  มีธรรมจักษุ  มีญาณทัสสนะเกิดขึ้น  หายสงสัยเกี่ยวกับความเป็นไปของชีวิต
                เพระฉะนั้น การปฏิบัติธรรม คือการทำจิตให้บริสุทธิ์ เพื่อให้เกิดธรรมจักษุ และญาณทัสสนะที่จะทำลายความสงสัยทั้งหลายที่มีอยู่นี้ เป็นสิ่งที่สำคัญและยิ่งใหญ่กว่าสิ่งอื่นใดทั้งหมด เพราะนี่คือหัวใจของนักสร้างบารมี ที่มีเป้าหมายจะไปให้ถึงพระนิพพาน

คุณครูไม่ใหญ่

วันอาทิตย์ที่ ๕ กรกฏาคม พ.ศ.๒๕๔๑
15

รสแห่งธรรมชนะรสทั้งปวง

         


ความสุขที่แท้จริงที่ทุกคนแสวงหา
มีรวมประชุมกันอยู่ในพระธรรมกายเท่านั้น
ที่อื่นไม่มี
มนุษย์ทุกคนในโลก ทุกเชื้อชาติ ศาสนา และเผ่าพันธุ์ ล้วนมีพระธรรมกายอยู่ในตัวด้วยกันทั้งนั้น  แต่เราไม่ทราบว่ามีท่านอยู่  ดังนั้นทั้ง ๆ ที่ปรารถนาจะเข้าถึงความสุขที่แท้จริง แต่เมื่อหาผิดที่ก็หาไม่เจอ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า
          ความยินดีในธรรมชนะความยินดีทั้งปวง รสแห่งธรรมชนะรสทั้งปวง การประพฤติธรรมเป็นความดี การบำเพ็ญกุศลเป็นความดี  การให้ความอนุเคราะห์แก่หมู่สัตว์ทั้งหลายเป็นความดี ธรรมที่ประพฤติดีแล้ว ย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม และนำความสุขมาให้
          หลวงพ่อมีความปรารถนาอย่างยิ่ง ที่จะให้ลูกทุกคนได้เข้าถึงพระธรรมกาย จะได้รู้จักและเข้าใจคำว่า รสแห่งธรรมชนะรสทั้งปวงนั้นเป็นอย่างไร มีรสชาติอย่างไร เข้าถึงแล้วจะยังประโยชน์สุขให้แก่ตนเองและต่อโลกอย่างไร 
เมื่อใดที่เราได้รับรสแห่งธรรม  เมื่อนั้นเราจะทราบด้วยตนเองว่า  สิ่งใดเป็นงานที่แท้จริงของการเกิดมาเป็นมนุษย์  เราจะมีมหากรุณาเกิดขึ้น  เรารักตนเองอย่างไร  เราก็จะรักเพื่อนมนุษย์อย่างนั้น  มีใจมุ่งตรงต่อจุดหมายปลายทางของชีวิต  โดยมีมรรคผลนิพพานเป็นแก่นสาร  และมีความปรารถนาอยากจะให้คนทั้งโลกได้เข้าถึงพระธรรมกาย  และอยากให้เขามีความสุข เป็นความปรารถนาที่ยืนอยู่บนพื้นฐานของเจตนาอันบริสุทธิ์
คุณครูไม่ใหญ่
๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๒
12

เข้าถึงธรรม...ไม่ยาก




การปฏิบัติธรรมเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุดในโลก
ไม่มีอะไรที่ง่ายไปกว่านี้
แค่เราหลับตาเบาๆ ผ่อนคลายสบาย ไม่ต้องคิดเรื่องอะไรทั้งสิ้น ทำใจหยุดนิ่งที่กลางกายเท่านั้น เดี๋ยวเราก็จะเข้าถึงสิ่งที่มีอยู่ในตัวเช่นเดียวกับที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระอรหันต์ท่านได้เข้าถึง
เหลือแต่เพียงเราประกอบความเพียรให้สม่ำเสมอ อย่าให้มีสิ่งใดมาเป็นข้ออ้าง ข้อแม้ เงื่อนไข ไม่ว่าเราจะเจ็บป่วยไข้ จะง่วงนอน หรือมีภารกิจอันใดก็ตาม เศรษฐกิจจะขึ้นจะลง สิ่งแวดล้อมจะเป็นอย่างไร ไม่ใช่อุปสรรคในการที่เราจะปฏิบัติธรรมเพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกายในตัว
คุณครูไม่ใหญ่

๑๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๐
1

สันติภาพโลกไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน



สันติภาพที่แท้จริงของโลกจะเกิดขึ้นได้ มีวิธีเดียวเท่านั้น คือให้เข้าถึงสันติสุขภายใน เข้าถึงพระธรรมกาย ซึ่งเป็นทุกสิ่ง เป็นแหล่งกำเนิดแห่งความสุข แหล่งกำเนิดแห่งความบริสุทธิ์ แหล่งกำเนิดของสติ ของปัญญา ของความรู้แจ้งในชีวิต เป็นที่สุดแห่งการแสวงหา เป็นที่ดับความสงสัย เป็นที่พึ่งที่ระลึกของบุคคลที่เข้าถึงได้ จะเป็นผู้เบิกบานเป็นนิจ สว่างไสวเป็นนิจ เหมือนดวงอาทิตย์ดวงจันทร์ที่ไม่ตกเลย
เพราะฉะนั้น สันติภาพของโลก เป็นสิ่งที่สามารถเป็นจริงได้ ไม่ใช่เพ้อฝัน ถ้าหากว่าทุกคนเข้าถึงพระธรรมกายได้
คุณครูไม่ใหญ่

๓๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๒
5

การอธิษฐานจิตไม่ใช่การค้ากำไรเกินควร



การอธิษฐานจิตไม่ใช่เป็นความโลภ
หรือการค้ากำไรเกินควร
เราจะเอาไปเปรียบเทียบกับธุรกิจไม่ได้
อธิษฐานจิต ก็คือการตั้งเป้าหมายว่า เราอยากจะไปเป็นอะไร  เราปรารถนาอย่างไรเราจึงอธิษฐานจิต แล้วบุญก็จะเป็นพลังสนับสนุนให้เป็นไปตามความปรารถนานั้น  ซึ่งไม่เกี่ยวกับความโลภ  ถ้าความโลภเกิดขึ้น บุญก็ไม่เกิด  มันตรงข้ามกัน  
เราก็กำลังเดินตามรอยพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกครั้งที่พระองค์ทำความดี ไม่ว่าทำเล็กทำน้อย  พระองค์ปรารถนาพุทธภูมิทั้งนั้น ซึ่งเป็นภูมิอันยิ่งใหญ่  ถวายดอกไม้บูชาพระเจดีย์ก็ปรารถนาเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถ้าเราจะไปคิดว่า อย่างนี้เป็นการค้ากำไรเกินควร มันก็ไม่ถูกต้อง เพราะพระองค์กำลังสั่งสมบุญเพื่อไปสู่เป้าหมายตรงนั้น อย่างนี้เรียกว่า อธิษฐานบารมี  คือกำลังสั่งสมบุญทีละเล็กทีละน้อย  เหมือนปลวกค่อย ๆ สร้างรังจากก้อนดินเล็ก ๆ ขึ้นไป  หรือเหมือนการสร้างตึกก็ต้องค่อย ๆ ก่อสร้างขึ้นไปจนกว่าจะไปถึงเป้าหมายของตึกที่ได้ตั้งใจเอาไว้
คุณครูไม่ใหญ่
๔   กรกฎาคม พ.. ๒๕๔๗


6

มรดกธรรมจากคุณยายอาจารย์ฯ



ช่วยกันดูแลวัดวาอารามของเราให้สะอาด  ให้ร่มรื่น ซึ่งตอนที่คุณยายอาจารย์ฯ ท่านยังมีชีวิตอยู่ ท่านถือว่า สิ่งนี้เป็นชีวิตจิตใจทีเดียว
ท่านบอกว่า วัดวาอารามที่สะอาด ร่มรื่น แสดงถึงจิตใจของผู้ที่มีคุณธรรม และเป็นการให้เกียรติผู้ที่มาเยี่ยมวัด ท่านถือว่า ตรงนั้นเป็นห้องรับแขก ถ้าเราทำวัดให้สกปรก ห้องน้ำไม่สะอาด เหมือนกับเราไม่ยินดีต้อนรับแขก
เพราะฉะนั้น เราจะต้องเคารพในปฏิสันถาร ในการต้อนรับแขกด้วยการช่วยกันทำความสะอาดวัด และอย่าให้มีสิ่งสกปรกรกรุงรัง นี่เป็นปฏิปทาของคุณยายตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ก็ขอให้ลูกหลานได้สืบทอดกันต่อไป
คุณครูไม่ใหญ่

๑๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๕

8

ชีวิตหลังความตายมีจริง


ชีวิตหลังความตายมีจริง
มีคติอยู่ ๒ ทาง คือ สุคติกับทุคติ
ตัดสินกันที่บุญและบาป
ใจใสหรือใจเศร้าหมอง
หากก่อนเดินทางไปสู่ปรโลกใจผ่องใสก็ไปดี  ถ้าใจเศร้าหมองก็ไปไม่ดี และคติทั้งสองนั้นยาวนานนัก  สุคติ สุขก็สุขนาน  ทุคติ ทุกข์ก็ทุกข์นาน 
ชีวิตหลังความตายไม่มีการทำมาหากิน เป็นอยู่ได้ด้วยบุญและบาปที่ตัวได้กระทำตอนเป็นมนุษย์
ชีวิตในสังสารวัฏนั้นมีแต่ทุกข์  มีทุกข์น้อย ทุกข์ปานกลาง ทุกข์มาก สุขไม่มีเลย  แต่พอทุกข์จนชาชิน พอทุกข์ลดลง เราก็เข้าใจว่า มันเป็นความสุข  แต่จริง ๆ แค่ทุกข์มันลดลง
เพราะฉะนั้น ในสังสารวัฏจึงน่าเบื่อหน่าย เหมือนกองเพลิงที่รุกโชนอยู่ จะต้องให้พ้นจากสังสารวัฏ แล้วไปสู่อายตนนิพพานให้ได้  ซึ่งเป็นบรมสุข และก็เป็นเอกันตบรมสุข สุขอย่างยิ่ง สุขอย่างเดียว ไม่มีทุกข์เจือเลย
เพราะเหตุนี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงได้นำมาอบรมสั่งสอนให้เราได้ทราบเกี่ยวกับเรื่องราวเหล่านี้  เราจะได้ทำถูกต้อง ดำเนินชีวิตไม่ผิดพลาด
คุณครูไม่ใหญ่
  มิถุนายน  พ.ศ. ๒๕๔๗
1

วัตถุประสงค์และอานิสงค์ของการบวช

วัตถุประสงค์ของการบวชมีเพียงประการเดียว คือ  ทำพระนิพพานให้แจ้ง  ไม่ว่าจะบวชสั้นหรือบวชยาวก็ตาม แม้บวชเพียงวันเดียววัตถุประสงค์ก็ยังอย่างเดียวเท่านั้นคือ  ทำพระนิพพานให้แจ้ง
การบวชเพื่อทำพระนิพพานให้แจ้งและตั้งใจทำอย่างนั้นจริง ๆ จึงจะได้ชื่อว่า เป็นเนื้อนาบุญ เป็นอายุพระศาสนา  ถูกวัตถุประสงค์ของการบวช  บวชอย่างนี้จึงจะมีอานิสงส์มากถึง ๖๔ กัป คือ ปิดประตูอบาย ไม่ต้องไปมหานรกถึง ๖๔ กัป จะเกิดกี่ครั้งก็แล้วแต่  ปิดประตูอบาย  ไม่ไปมหานรกสำหรับตัวเอง  โยมพ่อโยมแม่ก็ได้ครึ่งหนึ่ง  ๓๒  กัป  ผู้มาอนุโมทนาลดหย่อนลงไปตามส่วน  แต่ถ้าหลาย ๆ องค์ก็มาคูณกันไปเรื่อย ๆ แล้วแต่ว่าใครปลื้มมาก  ปลื้มน้อย  นี่ก็เป็นวัตถุประสงและอานิสงส์โดยย่อของการบวช
คุณครูไม่ใหญ่
๒๔  กรกฎาคม พ.. ๒๕๔๗
2

ชีวิตที่สัมบูรณ์




ชีวิตต้องเบิกบานด้วยตัวของเราเอง นี่เป็นเรื่องที่สำคัญและสูงส่งมาก
ถือว่า...สมหวังในชีวิต

เพราะเราไม่ต้องไปพึ่งพาสิ่งใดๆ ภายนอก
ต้องเป็นสุขได้ด้วยตัวของเราเอง

แม้อยู่เพียงลำพังที่ไหนก็แล้วแต่
พอหลับตาปุ๊บ...ก็หาความสุขได้

หลับตา ลืมตา นั่ง นอน ยืน เดิน
หาความสุขจากภายในได้

ความสุขที่ไม่มีขอบเขตจำกัด
หาได้อย่างง่าย ๆ
อย่างนี้ถึงจะเรียกว่า

ชีวิตที่ “สัมบูรณ์”


คุณครูไม่ใหญ่
11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
10

“บุญ” ส่งถึงกันได้



เมื่อเราทำบุญ แล้วอุทิศส่วนกุศลไปให้หมู่ญาติที่ละโลกไปแล้ว หมู่ญาติเขาก็จะอนุโมทนาสาธุการ  เมื่ออนุโมทนาสาธุการแล้ว
จากทุกข์มาก  ก็ทุกข์น้อย
ทุกข์น้อย  ก็พ้นทุกข์
สุขน้อย  ก็สุขมาก
สุขมากแล้ว  ก็มากเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ
ญาติที่ละโลกไปแล้วเมื่อพ้นทุกข์และมีสุขด้วยบุญที่เราอุทิศไปให้ เขาจะอนุโมทนาขอบคุณด้วยความซาบซึ้งที่พ้นจากทุกข์
พวกที่พ้นจากอบาย ก็จะดีใจมากเป็นพิเศษ จะลิงโลดใจตื่นเต้นอย่างออกนอกหน้า
ที่เขาอยู่ในสุคติภพ ก็จะมีอาการปลื้มใจ อย่างสงบเสงี่ยม แต่สง่างาม อาการก็จะแตกต่างกันไป
ส่วนผู้ที่ยังต้องเสวยวิบากเป็นสัตว์เดรัจฉานอยู่ ก็ต้องรอคอยจังหวะ แต่ก็ได้ลดหย่อนกระแสวิบากกรรมวิบัติบาปศักดิ์สิทธิ์ จากที่จะต้องใช้จำนวนมากชาติ ก็ลดหย่อนกันลงมา เพราะฉะนั้นบุญจึงเป็นทุกสิ่งในปรโลก
ผู้รับที่อยู่ในปรโลก
มีความปรารถนาบุญอย่างยิ่ง
เพราะบุญเป็นทุกสิ่งในปรโลก
เนื่องจากชีวิตในปรโลก ไม่มีการทำกิจแบบมนุษย์ ไม่ต้องทำมาหากิน ไม่มีการค้าขาย ไม่มีการทำไร่ ทำนา ทำสวน เป็นอยู่ได้ด้วยบุญและบาปที่กระทำไว้ตอนเป็นมนุษย์ เมื่อผู้มีชีวิตอยู่อุทิศส่วนกุศลไปให้ มันก็ตรงกับที่ผู้รับปรารถนา และก็ใช้ได้ด้วย
และเนื่องจากเขาได้ไปเห็นผลแห่งการกระทำแล้ว เขาจะตั้งจิตอธิษฐานให้เราสั่งสมแต่กุศลธรรมตลอดชีวิต  ให้เราเป็นผู้ไม่ประมาทในการสั่งสมบุญ  ไม่ให้มีความตระหนี่  ให้ทำทาน  ไม่หวนแหนทรัพย์ที่ได้มา  แล้วอำนวยพรให้เราเจริญรุ่งเรืองในการประกอบสัมมาอาชีวะ  ให้อยู่เย็นเป็นสุข  ต่างก็มีความปรารถนาดีซึ่งกันและกันอย่างนี้
คุณครูไม่ใหญ่
๖  ตุลาคม  .. ๒๕๔๕
5

ทำบุญเยอะแล้ว...ขอพักแป๊ป



อย่าเบื่อหน่ายในการสร้างบุญ
อย่าเกียจคร้านในการทำความเพียร
อย่าประมาทชะล่าใจว่า เราทำบุญมาเยอะแล้ว ขอพักก่อน แล้วค่อยไปทำบุญต่อไปในบุญข้างหน้า เพราะมีความคิดว่า จะทำทุก ๆ บุญเท่าที่ปัจจัยจะอำนวย ดังนั้นก็คอย project หน้า ถ้ามีบุญก็จะทำ
อย่างนี้ถือว่าประมาท เพราะวันพรุ่งนี้จะมีสำหรับเราหรือไม่ ยังไม่ทราบ เพราะมีตัวอย่างมากมายที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ในโลก  โดยเฉพาะเพื่อนสหธรรมิกที่ได้จากพวกเราไปในวัยที่เราคาดไม่ถึง  พบเห็นกันอยู่หลัด ๆ ก็มาพลัดพรากกันไป  เพราะฉะนั้นทุกบุญที่เกิดขึ้นทำไว้เถิด

สิ่งที่เราทำนั่นแหละ
คือของๆ เราอย่างแท้จริง
สิ่งที่เรายังไม่ได้ทำ ก็ยังไม่ใช่ของเรา
การชิงช่วงช่วงชิงเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา
เราอาจจะถูกช่วงชิงไปทำอย่างอื่นให้หมดสิ้นไปก็ได้
หรือ...เราอาจตายก่อนก็ได้
เพราะฉะนั้น...อย่าประมาท

คุณครูไม่ใหญ่
  ตุลาคม  .. ๒๕๔๕


2

Facebook