ทำอย่างไรให้ชีวิตหลังเกษียณ เป็นชีวิตที่สง่างาม และทรงคุณค่า (วิธีแก้วัดร้างให้เป็นวัดรุ่ง)



“วัดร้าง” คือวัดที่เคยรุ่งในอดีต แต่ต่อมาเมื่อพุทธบริษัท ๔  ละเลยคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  สิ่งเหล่านี้ก็เลือนลางกันไป  วัดนั้นก็เลยไม่มีพระ กลายเป็นวัดร้างไปในที่สุด
วิธีแก้ไขวัดร้าง...แก้ไม่ยาก
ก็แค่เอาพระไปอยู่ในวัดนั้น
จากวัดร้างก็จะกลายเป็น...วัดรุ่ง
ผู้ที่ปลดเกษียณแล้ว  ผ่านชีวิตทางโลกมามาก ตั้งแต่จบการศึกษา ทำการงาน ผ่านการเป็นเจ้าคนนายคน ได้รับใช้สังคมกันมายาวนาน เมื่อถึงเวลาปลดเกษียณตามที่กำหนดกฎเกณฑ์เอาไว้บางแห่ง ๖๐ ปี บางแห่ง ๕๕ ปี หรือบางแห่งมีการเออลี่รีไทร์ (Early Retire) เพื่อจะเอาเวลาที่ยังพอมีเรี่ยวมีแรงมาทำสิ่งที่ดีงาม
สิ่งที่ดีที่สุดในความคิดของครูไม่ใหญ่มีความเห็นว่า
ทุกชีวิตต้องไปสู่ปรโลก   เมื่อปรโลกมีคติ  ๒ ทาง คือ สุคติและทุคติ  ซึ่งคติทั้งสองยาวนานมาก  มีทุกข์ก็ทุกข์นาน  มีสุขก็สุขนาน  และเขาตัดสินกันที่ความหมองความใสของใจ
เพราะฉะนั้น ชีวิตหลังปลดเกษียณ ควรจะเป็นช่วงที่ทำใจให้ใส ๆ ให้บริสุทธิ์  ฟื้นฟูระบบกล้ามเนื้อที่ไปหมักหมมกับสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์มาตลอด  ซึ่งจะมีผลในตอนใกล้ละโลก ทำให้ใจไม่ผ่องใส  จะต้องมาเคลียร์ระบบประสาทกล้ามเนื้อ และกระบวนความคิด คำพูด การกระทำ  ด้วยการระลึกนึกถึงพระรัตนตรัย  นึกถึงบุญ  สวดมนต์ไหว้พระ  เจริญภาวนา  ศึกษาธรรมะ  ฝึกฝนอบรมตนเองและสั่งสอนผู้อื่น  ใจจะได้ผ่องใส พอถึงช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเข้าสู่สมรภูมิศึกชิงภพปิดงบดุลชีวิต ก็จะได้ไปแบบผู้ที่มีชัยชนะ ไปสู่สุคติโลกสวรรค์
ดังนั้นชีวิตช่วงสุดท้าย หลังจากปลดเกษียณแล้ว ควรจะไปบวชกันทั้งหญิงทั้งชาย  ผู้หญิงบวชใจแทน  ทำบุญตักบาตร  สวดมนต์ไหว้พระ  เจริญภาวนา  ไปบำรุงวัดวาอาราม  ช่วยปัดกวาดเสนาสนะ  ส่วนผู้ชายก็บวชเลย  บวชแล้วก็กราบลาพระอุปัชฌาย์ ขออนุญาตท่านมาอยู่วัดร้าง
เมื่อมาอยู่วัดร้าง ก็ดูแลทำความสะอาดกันไป ทั้งทำความสะอาดกาย วาจา ใจ ทั้งทำความสะอาดจีวร เสนาสนะ อาวาส ลานวัด โบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ ห้องน้ำ ห้องส้วม เอาไว้เป็นที่ต้อนรับแขกผู้มาเยือน 
เราเริ่มทำกันไปก่อนได้แค่ไหนแค่นั้น แล้วเดี๋ยวลูกหลานของเรา ใครจะปล่อยให้พ่อ ให้ปู่ ให้ตา ลำบากอย่างนั้น  เขาจะได้มีโอกาสเข้าวัดมาสนับสนุน  ไปทำความบริสุทธิ์กายวาจาใจ ได้ทำไวยาวัจมัย  ช่วยเหลือกิจการงานของพระศาสนา  ได้มาบำเพ็ญบุญ  เดี๋ยวคนโน้นเข้า คนนี้เข้า  ก็จะมีแต่สิ่งดี ๆ เกิดขึ้นตามมา  โดยเริ่มต้นกันทีละรูป สองรูป สามรูป  แล้วจะเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ
จะเป็นความชราที่สง่างาม และจะเป็นการสืบทอดอายุพระศาสนา วัดนั้นก็จะถูกฟื้นฟูให้เป็นแหล่งแห่งเนื้อนาบุญ  เป็นที่บำเพ็ญบุญ  บุญได้จากที่ผู้บวชตั้งใจบวชเป็นพระแท้ แม้บวชเพียงวันเดียวก็ได้ชื่อว่าเป็นเนื้อนาบุญ
โลกขาดเนื้อนาบุญไม่ได้ ถ้าทำบุญกับเนื้อนาบุญ จะช่วยย่นระยะทางไปสู่พระนิพพานให้สั้นลง  และผลบุญที่ทำถูกเนื้อนาบุญจะส่งผลเกินควรเกินคาดกว่าทำกับสิ่งที่ไม่ใช่เนื้อนาบุญ  
วัดตรงนั้นก็จะเป็นแหล่งแห่งความรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  เป็นความรู้วิชชาชีวิตที่เราจะต้องได้ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิต  ซึ่งไม่มีสอนในสถานที่ใดที่เหมาะสมเท่ากับที่วัด เพราะบรรยากาศเหมาะ มีโบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ  มีพระประธาน มีพระธรรม มีพระสงฆ์
ชาวบ้านที่อยู่รอบ ๆ วัด เขาก็จะได้มีแหล่งตักตวงบุญ  ตักตวงความรู้  และเป็นแหล่งที่จะทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์อีกมากมาย  ลูกหลานของเราก็จะได้มีโอกาสไปบวช ไปได้รับการการอบรมบ่มนิสัย  ปลูกฝังขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงาม  พอวัดนั้นมีพระอยู่  เดี๋ยวก็จะชักชวนกันม
ถ้าทำกันได้อย่างนี้ แค่ปีเดียวจากวัดร้างก็จะกลายเป็นวัดรุ่ง แล้วจะเกิดประโยชน์อย่างยิ่ง วัดจะเป็นสถานที่อบรมบ่มนิสัยทุก ๆ ชีวิตในสังคม ให้อยู่เย็นเป็นสุข เพราะฉะนั้นไม่ควรจะให้มีวัดร้าง แต่ควรเป็นวัดรุ่งหมดทั่วประเทศไทย

คุณครูไม่ใหญ่
๑๒  มิถุนายน  พ.ศ. ๒๕๔๖



3 ความคิดเห็น:

  1. โอ้ ได้ เช่น นี้ ชีวิต ใช้ คุ้มค่าที่เกิดมา วัยเกษียณ จะเป็นเสมือน เพชร ที่ ทีคุณค่าทั้งกลางวัน ทั้งกลางคืน

    ตอบลบ
  2. ใช่เลย การกระทำดังกล่าว มีคุณค่าในการดำเนินชีวิตหลังปลดระวางจริงๆๆ

    ตอบลบ

Facebook