หลวงพ่อคิดว่า พวกเราก็คงมีจิตใจเช่นเดียวกับหลวงพ่อ คือ อยากจะเห็นพระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง เรามาเกิดในยุคนี้ ที่มีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ และเป็นประโยชน์ต่อเราและโลกนี้ เราจะให้มันถล่มทลายในยุคของเราหาควรไม่
ยุคของเรา
พระพุทธศาสนาจะต้องเฟื่องฟูที่สุด
เหมือนย้อนยุคพุทธกาล
หลวงพ่อมีความคิดว่า อะไรก็ตามที่มีบันทึกในพระไตรปิฎก จะต้องเป็นสิ่งที่พิสูจน์และสามารถยืนยันได้ว่า “มีจริง” ในยุคปัจจุบันของพวกเรานี่แหละ
อย่างเช่น ในพระไตรปิฏกมีการบันทึกว่า มีการเลี้ยงพระแสนองค์ เรียกว่า ผ่านกันมาเป็นพันปี ไม่ค่อยจะเชื่อกันเลย มันจะเป็นไปได้อย่างไร แล้วเราได้พิสูจน์แล้วว่า มีจริงแล้วก็ดีจริง สามารถทำได้ ถวายจีวรแสนผืน ถวายหยูกยา เราก็ได้ทำแล้วในยุคของเรา ก่อนหน้ายุคของเราก็ไม่มีนะ อย่างนี้จะเรียกว่า เรามีบุญมาก ๆ ทีเดียว
เพราะฉะนั้น แทนที่จะดูว่า พระพุทธศาสนาเรียวลง เราก็จะต้องพยายามทำพระพุทธศาสนาให้เฟื่องฟูยิ่งขึ้นไปเลย เวลาเราเดินทางออกจากร่างกาย ไปสู่สุคติ เราจะได้ปลื้มปีติใจว่า เราได้ใช้ร่างกายและทรัพยากรที่เรามีอยู่นี้ ได้ช่วยกันยกยอพระพุทธศาสนา เวลาชาวสวรรค์ถาม เราจะได้ตอบเขาด้วยความปีติภาคภูมิใจว่า ได้ช่วยยอยกพระพุทธศาสนาให้สูงเด่นยิ่งขึ้นไปเรื่อย ๆ รัศมีกายของเราก็จะได้สว่างโพลงไปเรื่อย ๆ ชาวสวรรค์เขาจะได้อนุโมทนาสาธุการ…
วันจันทร์ที่ ๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๕
คุณครูไม่ใหญ่
สาธุๆๆๆประเทศไทยคือเมืองพุทธมาแต่โบราณแล้วสมควรที่จะบัญัญัติพระพุทธศาสนาให้เป็นศาสนาประจำชาติตั้งนานแล้ว
ตอบลบเจ้าค่ะเราจะสู้ด้วยบุญ และเอาสติเป็นที่ตั้งเจ้า สาธุ สาธุ สาธุเจ้าค่ะ
ตอบลบร่วมด้วยช่วยกันฟื้นฟูศีลธรรมกลับคืนมา
ตอบลบอายุพระพุทธศาสนาอยู่ในมือของเราชาวพุทธทุกๆๆท่านช่วยกัน ทำให้พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองอย่างยิ่ง เพราะทุกครั้งที่ได้ร่วม ถวายภัตตาหารพระถวายยา ถวายผ้าไตร บวชพระ เรือนแสน มันปลื้ม..และปิติใจมากๆเจ้าคะ ปลื้มมากๆเกิดมาในยุคที่พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง กราบอนุโมทนาบุญพระภิกษุแท้ ทั่วสังมณฑลที่เป็นเนื้อนาบุญ ให้ได้สั่งสมบุญสั่งสมบารมี สาธุเจ้าคะ
ตอบลบสาธุ
ตอบลบเราเป็นพันธ์ตะวัน ลูกพระพุทธเจ้า ว่าไงว่าตามกันเจ้าค่ะ! ลูกขอลุยแบบนักสร้างบารมีค่ะ...
ตอบลบ