พระบรมศาสดา ทรงตรัสเล่าเรื่องเวลามพราหมณ์ ว่าด้วยการให้ทานที่มีผลมาก แก่ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี
บุคคลผู้ให้ทานที่ประณีตหรือไม่ก็ตาม หากให้โดยไม่เคารพในทาน ไม่ทำความนอบน้อมในทาน ไม่ได้ให้ด้วยมือของตนเอง ให้ของที่เหลือเดน แล้วให้ทานโดยไม่เชื่อเรื่องกรรมและผลของกรรม คือ ให้ไปอย่างนั้นเอง แต่ก็ไม่ได้เชื่อว่าจะมีผลอะไรต่อไป คือให้ ๆ ไปให้พ้นหูพ้นตา ทานนั้น ๆ จะส่งผลให้เขา
เมื่อไปเกิดในที่ใดก็ตาม
แม้มีทรัพย์มาก จิตของผู้นั้นย่อมไม่ยินดีที่จะทานอาหารอย่างดี จะรับประทานแต่ของเก่า ค้างคืน
แม้มีทรัพย์มาก ย่อมไม่ยินดีที่จะใช้ผ้าเนื้อดี ชอบแต่ผ้าเนื้อหยาบ
แม้มีทรัพย์มาก ย่อมไม่ยินดีที่จะใช้พาหนะดี ๆ ชอบแต่ของเก่า ๆ
แม้มีทรัพย์มาก ย่อมไม่ยินดีที่จะทรัพย์นั้นมาบำรุงบำเรอด้วยสิ่งที่ตนปรารถนา
แม้บริวารของผู้ให้ทาน คือ บุตร ภรรยา ทาส คนรับใช้ เป็นต้น ก็ไม่เชื่อฟัง เหล่านี้เป็นผลแห่งกรรมที่ทำทานโดยไม่เคารพ ไม่ตระหนักเห็นคุณค่าในการทำทาน
ส่วนบุคคลผู้ให้ทานที่ประณีตหรือไม่ก็ตาม ถ้าให้ทานโดยเคารพ ทำความนอบน้อมในทาน ให้ทานด้วยมือของตนเอง ให้ของที่ไม่เหลือเดน และให้ทานโดยเชื่อกรรมและผลของกรรม ทานนั้นจะส่งผลให้เขา
เมื่อไปเกิดที่ใดก็ตาม จิตของเขาย่อมน้อมไปเพื่อรับประทานอาหารอย่างดี ย่อมยินดีในการใช้ผ้าเนื้อดี ย่อมยินดีในการใช้ยานพาหนะดี ๆ จิตของเขาย่อมยินดีในการบำรุงบำเรอด้วยสิ่งที่น่าปรารถนา แม้บริวารของผู้ให้ทาน คือ บุตร ภรรยา ทาส คนรับใช้ เป็นต้น ย่อมเชื่อฟัง ข้อนี้ก็เป็นผลแห่งกรรมที่ทำทานโดยเคารพ
คุณครูไม่ใหญ่
วันศุกร์ที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๗
สาธุ สาธุ สาธุ ลูกขอแชร์ความรู้ทางธรรมะให้เพื่อน ๆ ชาวโลกและหมู่ญาติได้รับรู้ รับทราบและปฏิบัติสืบต่อไป ด้วยการให้ทานด้วยความเคารพเจ้าค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ
ตอบลบสาธุ
ตอบลบสาธุค่ะ
ตอบลบกราบอนุโมทนาสาธุเจ้าค่ะ พระพุทธศาสนา เราสืบสารกันมาตั้งแต่โบราณ
ตอบลบของชาวพุทธที่เราต้องรักษาไว้ชั่วลูกชั่วหลานเจ้าค่ะ
สาธุค่ะ
ตอบลบ