ชิงช่วงสร้างบารมี
“ความมืดในโลก
มีไม่เกิน ๑๒ ชั่วโมง
พอถึงชั่วโมงที่ ๑๓
ก็สว่างแล้ว”
เช่นเดียวกัน ความมืดในชีวิต หรือความมืดในเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ก็อยู่กับเราได้ไม่นาน ไม่ช้าก็จะจากไป เราควรชิงช่วงเวลาในสถานการณ์เช่นนี้สร้างบารมีให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป เพราะเป็นสถานการณ์ที่วัดกำลังใจในการสร้างบารมีของเรา
ยอดนักสร้างบารมีทั้งหลายในกาลก่อน ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตได้ ก็เพราะเขาชิงช่วงสร้างบารมีในยุคทุพภิกขภัย ยุคข้าวยากหมากแพง หรือช่วงที่เกิดกลียุคต่าง ๆ เพราะกระแสบุญจะส่งผลแรงในช่วงนั้น เนื่องจากเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก ดังนั้นผู้ที่ทำได้ ต้องมีกำลังใจอันสูงส่ง เมื่อสามารถทำได้แล้ว ก็จะเกิดมหาปีติ ส่งผลให้กระแสธารแห่งบุญที่สอดละเอียดซ้อนลงมาในกลางกายมีกำลังแรงมากกว่าปกติ จนสามารถพลิกผันชีวิตของเขาให้ประสบความสำเร็จยิ่งกว่าใคร ๆ ทั้งหมด
ดังนั้น อย่าหวั่นไหวต่อสภาพเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ซึ่งเป็นเรื่องปกติธรรมดาของเศรษฐกิจที่มีขึ้นมีลงอย่างนี้เรื่อยมา เพราะเรายังไม่ชนะเขา ยังมีการต่อสู้กันอยู่ระหว่างธรรมะกับอธรรม ขอให้ลูก ๆ ทุกคน ถือโอกาสนี้เป็นโอกาสทองของยอดนักสร้างบารมี ที่จะชิงช่วงเศรษฐกิจตกต่ำเช่นนี้สร้างบารมีอย่างยิ่งยวด เพื่อบุญในครั้งนี้จะส่งผลให้เราประสบความสำเร็จในชีวิต เช่นเดียวกับยอดนักสร้างบารมีทั้งหลายในกาลก่อน
คุณครูไม่ใหญ่
4 มกราคม พ.ศ. 2541
อ่านแล้วมีกำลังใจในการสร้างบารมีมากค่ะ ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร เราก็ต้องสร้างบารมีอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพันต่อไปค่ะ
ตอบลบสาธุๆๆ
ตอบลบสาธุๆๆ
ตอบลบต้องค่ะบุญไม่ทำไม่ได้ค่ะ กินข้าวยังต้องกินทุกวันเลยค่ะ ลมหายใจเข้าออกแค่เราหายใจเข้าแล้วไม่ออกก็ตายแล้วเพราะหมดบุญ เพราะฉนั้นต้องทำบุญบ่อยๆค่ะ ทำแล้วมีความสุขค่ะมาทำบุญกันนะคะ
ตอบลบต้องค่ะบุญไม่ทำไม่ได้ค่ะ กินข้าวยังต้องกินทุกวันเลยค่ะ ลมหายใจเข้าออกแค่เราหายใจเข้าแล้วไม่ออกก็ตายแล้วเพราะหมดบุญ เพราะฉนั้นต้องทำบุญบ่อยๆค่ะ ทำแล้วมีความสุขค่ะมาทำบุญกันนะคะ
ตอบลบขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับ สาธุๆๆ
ตอบลบI rejoice in your merit.
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบสาธุอ่านแล้วมีกำลังใจในการเสร้างบุญบารมีต่อไปค่ะ
ตอบลบสาธุอ่านแล้วมีกำลังใจในการเสร้างบุญบารมีต่อไปค่ะ
ตอบลบกราบอนุโมทนาสาธุเจ้าค่ะ
ตอบลบพระธรรมกาย คือเป้าหมายชีวิต สาธุๆๆๆ
ตอบลบ