เมื่อไม่รู้จะอ่านอะไร 3
๖๕.การบวชทำได้ยาก
การทิ้งเพศคฤหัสถ์อย่านึกว่าง่ายนะ
สำหรับผู้ที่มีบารมีแก่ ๆ เข้ม ๆ เท่านั้น
ถ้าบารมีอ่อน ๆ หรือเจือจางมาไม่ได้
เพราะต้องสวนกระแสกิเลส
และคนที่จะสวนกระแสกิเลสได้ในโลกนี้ก็มีไม่มาก
เพราะกระแสกิเลสในยุคนี้มากเหลือเกิน
มันมากถาโถมถึงระดับทำให้ทำนบพังเลย (ทำนบใจ)
เพราะฉะนั้น ผู้ที่จะบวชได้
ต้องมีบารมีแรงมากกว่าจึงจะสวนกระแสกิเลสออกบวชได้
การออกบวชจึงทำได้ยากอย่างนี้
๑๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕
๖๖.วัตถุประสงค์และอานิสงส์การบวช
วัตถุประสงค์ของการบวชมีเพียงประการเดียว
คือ ทำพระนิพพานให้แจ้ง
ไม่ว่าจะบวชสั้น บวชยาว หรือแม้บวชเพียงวันเดียวก็ตาม
การบวชเพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง
และตั้งใจทำอย่างนั้นจริง ๆ จึงจะได้ชื่อว่าเป็นเนื้อนาบุญ
เป็นอายุพระศาสนา ถูกวัตถุประสงค์ของการบวช
บวชอย่างนี้จึงจะมีอานิสงส์มากถึง ๖๔ กัป
คือ จะเกิดกี่ครั้งก็แล้วแต่จะปิดประตูอบาย
ไม่ต้องไปมหานรกสำหรับตัวเองถึง ๖๔ กัป
โยมพ่อโยมแม่ก็ได้ครึ่งหนึ่ง ๓๒ กัป
ผู้มาอนุโมทนาลดหย่อนลงไปตามส่วน
แต่ถ้าบวชหลาย ๆ รูปก็คูณไปเรื่อย ๆ
แล้วแต่ว่าใครปลื้มมาก ปลื้มน้อย
นี่ก็เป็นวัตถุประสงค์และอานิสงส์การบวชโดยย่อ
๒๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๗
๖๗.ควรบวชแต่หนุ่ม
ชายแมน ๆ ควรรีบบวชตั้งแต่ยังหนุ่ม
ไม่ใช่สึกแต่หนุ่ม
เพราะร่างกายยังอยู่ในวัยแข็งแรง
ความหนุ่ม จะทำให้เราสามารถศึกษาเรียนรู้
และบำเพ็ญสมณธรรมได้อย่างเต็มที่ เต็มกำลัง
แต่ถ้าเฒ่าแล้วมันไม่ไหว มันได้เต็มที แต่ไม่ได้เต็มที่
ดังนั้น อย่ามัวประมาทชะล่าใจว่า
เรายังหนุ่มแน่นอยู่ ยังมีเวลา อีกนานกว่าเราจะตาย
นั่นเราคิดเอาเอง อย่าไปคิดอย่างนั้น
เพราะความตายไม่มีนิมิตหมาย ไม่ได้บอกล่วงหน้า
และเวลาในโลกนี้ก็เหลือน้อยลงไปทุกที
ทั้งความแก่ ความตาย ก็คอยจ้องเล่นงานเราอยู่ตลอดเวลา
ตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดาไล่เรื่อยมาจนกระทั่งมาถึง ณ วินาทีนี้
ความแก่ ความชรา ไม่ต้องหา ได้มาฟรี ๆ
ไม่เหมือนการสร้างบารมีไม่ได้มาฟรี ๆ
เราต้องสร้างเอง ต้องลงทุน เพราะฉะนั้นบวชเถิดประเสริฐนัก
๑๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
๖๘.บวชชาติต่อชาติ
การบวชเป็นการสั่งสมบุญใหญ่
ให้กับตัวเราเอง
และบุคคลที่เรารัก
เมื่อเราบวชแล้ว ก็ควรจะลืมเรื่องราวในอดีต
ที่เราเคยทำผิดทำพลาดมาแล้วให้หมด เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมา
เราไม่เคยได้ศึกษาเรียนรู้เรื่องกฎแห่งกรรม
ดังนั้นเมื่อเราได้มาเรียนรู้เรื่องกฎแห่งกรรมแล้ว
เราก็ควรที่จะลืมเรื่องที่ไม่ดีให้หมดไปจากใจ
จะได้ไม่ฟุ้ง ไม่กังวล แล้วก็เริ่มต้นชีวิตใหม่
ด้วยการสอนและเตือนตัวเองว่า
เราจะไม่คิดหวนคืนกลับไปทำในสิ่งที่ไม่ดีเหล่านั้นอีก
จากนั้นก็ให้ตั้งใจฝึกฝนอบรมตนเอง
ด้วยการฝึกตน ทนหิว บำเพ็ญตบะ เป็นพระแท้
ซึ่งการฝึกฝนอบรมตนเองเช่นนี้
ถือเป็นการฝึกใจเพื่อสวนกระแสกิเลสที่ไหลเชี่ยวกรากอยู่ตลอดเวลา
ซึ่งก็อาจจะทำให้เราไม่ได้รับความสะดวกสบาย
เหมือนชีวิตตอนเราเป็นคฤหัสถ์
หรืออาจจะได้รับความยากลำบากบ้าง ก็ไม่เป็นไร
แต่ยังดีกว่าที่เราจะต้องไปรับทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส
ในนรกอย่างยาวนาน ตกนรกเรายังทนกันได้
เพราะอยู่ตรงนั้นจำต้องทน มีความทุกข์ทรมานทุกอนุวินาทีเลย
แล้วก็ทุกส่วนของร่างกาย ตายเกิด ๆ นับครั้งไม่ถ้วน
เพราะฉะนั้นบวชชาติต่อชาติ ประเดี๋ยวเดียวเท่านั้น
ไม่ลำบากอะไรเลย
ถ้าหากเราตั้งใจสั่งสมบุญสร้างบารมีกันอย่างเต็มที่เต็มกำลัง
ก็จะทำให้ชีวิตการสร้างบารมีของเรามีแต่ความราบรื่น รุ่งเรือง
และมีปีติสุขหล่อเลี้ยงใจไปตราบวันสุดท้ายของชีวิต
และผังชีวิตอันดีงามนี้ก็จะติดตามตัวเราไปทุกภพทุกชาติ
ตราบกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรม
๑๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
๖๙.สุขในชีวิตสมณะ
ชีวิตสมณะ ถ้าใช้ชีวิตด้วยการหยุดกับนิ่ง
คือทำอย่างที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านสอน
ให้ระวังรักษาจิตดวงเดียว
ไม่ต้องไปคิดเรื่องคน สัตว์ สิ่งของ
เอาใจหยุดนิ่ง ๆ สบาย ๆ ภายใน มันมีความสุขนะ
แล้วมีเรื่องที่น่าศึกษา ทุกขั้นตอนที่ผ่านไปมันมีความสุข
มีทั้งความรู้ มีทั้งความสุข ใจก็เบิกบานอย่างบอกไม่ถูก
เหมือนเอาปิ่นโตที่ใส่อาหารมา
เราเปิดฝาชั้นแรกว่าอร่อยแล้ว
พอยกไปชั้นที่ ๒ อร่อยกว่านั้นเข้าไปอีก
ชั้น ๓ ชั้น ๔ ชั้น ๕ เป็นเถา ๆ ยาวเหยียดไปเลย
วันนี้หยุดได้แค่นี้ว่าอร่อยแล้ว
หยุดหนักเข้าไปอีก หยุดในหยุด
อร่อยกว่าเดิมเข้าไปอีกเรื่อย ๆ เลย
๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๖
๗๐.อย่าหาว่าพระขี้เกียจ
บวชเป็นพระ มีความสุขนะ
แต่ต้องเข้าใจงานของพระ
โยมก็ต้องเข้าใจงานของพระด้วย
แต่เดิมพระท่านก็เป็นคฤหัสถ์
มีชีวิตเหมือนชาวโลกทั่วไปที่ต้องทำมาหากิน
แต่เพราะเห็นภัยในวัฏสงสารจึงออกบวช
เห็นว่าชีวิตครอบครัวมันอึดอัด คับแคบ มีแต่เรื่องกังวลวุ่นวาย
มีแต่ปัญหา ก็เลยปลีกตัวมาออกบวช
แล้วก็มาเรียนรู้เรื่องของพระ มาทำงานแบบพระ
ศึกษาฝึกฝนธรรมะ แล้วก็นำไปสั่งสอน
เพราะฉะนั้น จะไปหาว่าพระขี้เกียจ
เอาเปรียบสังคม ไม่ถูกนะ
ก็ท่านเป็นพระ ก็ต้องทำกิจของพระ
จะให้ไปทำอย่างฆราวาสไม่ได้
ชาติหนึ่งคนหนึ่ง ทำได้อย่างเดียว
ถ้าคฤหัสถ์ก็ต้องทำมาหากิน
จะให้มาศึกษาธรรมะถึงขั้นละเอียดลึกซึ้ง มันยาก
เพราะฉะนั้นก็ต้องให้โอกาสกับผู้ที่เห็นภัยในวัฏสงสาร
หมดความจำเป็นที่จะใช้ชีวิตในเพศคฤหัสถ์ออกบวช
เราก็สนับสนุนท่าน ให้ท่านได้ทำความเพียร
ท่านก็จะได้เรียนรู้ศึกษาธรรมะให้ละเอียดลึกซึ้ง
แล้วก็นำมาถ่ายทอดให้ความรู้แก่ญาติโยม
โยมทำงานมาเหนื่อย ๆ ก็จะได้ฟังธรรมจากท่าน
พระฝากท้องเอาไว้กับโยม โยมก็ฝากเรื่องจิตใจเอาไว้กับพระ
พระฝากกาย โยมฝากใจ ต่างก็เกื้อกูลกัน
เพราะฉะนั้นอย่ามองว่า พระขี้เกียจ เอาเปรียบสังคม
แต่ท่านทำประโยชน์ให้สังคม โดยทำหน้าที่เป็นครูสอนศีลธรรม
เป็นแบบอย่างที่ดีของคนดีที่โลกต้องการและโลกไม่เคยเห็นด้วย
และเป็นแหล่งแห่งความรู้ที่สอนเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิต
เป็นแหล่งแห่งเนื้อนาบุญ ต้องแบ่งหน้าที่กันทำ
เพราะฉะนั้น ใครมองแคบ ๆ ตื้น ๆ ว่า พระเอาเปรียบสังคม
เลิกคิดนะ มองใหม่ พระเป็นพระก็ต้องทำแบบพระ
โยมเป็นโยมก็ต้องทำแบบโยม
และพระเป็นครูสอนศีลธรรมที่ถูกที่สุด
ปีหนึ่งมีผ้าแค่ ๓ ผืน เปลี่ยนปีละชุด
อาหารวันละมื้อ บางแห่ง ๒ มื้อแค่นั้น
๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๖
๗๑.ธรรมทายาทผู้เป็นแรงบันดาลใจ
การบวช นอกจากจะเป็นทางมาแห่งบุญ
และเป็นการสืบทอดอายุพระศาสนาแล้ว
ยังเป็นกำลังใจให้กับพุทธบุตรผู้ที่ตั้งใจบวชอุทิศชีวิต
ให้กับพระพุทธศาสนาอีกด้วย ถ้าหากว่ามีการบวชกันทุก ๆ วัด
หลวงปู่ หลวงตา หลวงพ่อ หลวงลุง หลวงน้าทั้งหลาย
ท่านก็จะหลับตาลาโลกนี้ไปอย่างสบายใจ
เพราะว่ามีผู้ที่จะรับภารกิจอันยิ่งใหญ่
สืบทอดคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ให้เป็นประโยชน์ต่อตนเองและต่อมวลมนุษยชาติแล้ว
ยังเป็นแรงบันดาลใจให้แก่พุทธบุตรวัดต่าง ๆ ทั่วสังฆมณฑล
ซึ่งตอนนี้เริ่มเกิดความรู้สึกที่ดี
ที่มีเป้าหมายเบี่ยงเบนก็เริ่มหันกลับมาสู่ทิศทางที่ถูกต้อง
คือบวชอย่างมีเป้าหมายตามแบบอย่างพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
และพระอริยสาวกทั้งหลาย
คือ บวชเพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง
อย่างน้อยก็แสวงบุญ สร้างบารมี บำเพ็ญเนกขัมมบารมี
และบารมีอย่างอื่น ๆ ให้ครบถ้วนบริบูรณ์
วัดที่ค่อย ๆ ทยอยกันร้าง ก็จะค่อย ๆ ทยอยกันรุ่ง
และอีกหน่อย ทุก ๆ วัดก็จะเต็มไปด้วยพุทธบุตร
ที่บวชอย่างมีเป้าหมาย
ศาสนทายาทก็จะค่อย ๆ ทยอย ๆ มาบวช
๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๗
๗๒.ที่ตั้งแห่งศรัทธา
ญาติโยมยังมีความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาอยู่มาก
เขายังมีความศรัทธาเหมือนเดิม
แต่ไม่ค่อยมีโอกาสนำศรัทธามาใช้
เพราะว่ายังไม่เห็นว่าจะเอาไปตั้งไว้ตรงไหน
คล้าย ๆ ในมือมีธูปอยู่แล้ว แต่ขาดกระถางธูป
เพราะฉะนั้นต้องการพุทธบุตรผู้เป็นเนื้อนาบุญ
เป็นกระถางธูปเพื่อจุดบูชา
๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕
๗๓.เนื้อนาบุญ
เราจะเป็น “เนื้อนาบุญ” ได้
ต้องรู้จักตัวเองก่อน
โดยเอาตัวเราเองค้นเข้าไปในตัวเอง
ให้เจอตัวของตัวเองภายใน แล้วตัวเองก็จะรู้จักตัวเอง
ตัวเองมีสองระดับ คือ ตัวเองระดับที่เกือบจะเป็นตัวเองที่แท้จริง
ตั้งแต่กายมนุษย์ละเอียดที่เหมือนตัวของเราอย่างนี้
แล้วดูการเปลี่ยนแปลงของตัวเองเข้าไปเรื่อย ๆ
จนกระทั่งไปถึงตัวเองที่แท้จริง
คือ พระธรรมกายภายใน
๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น