วิธีใช้บุญ

ความสุขที่หยุดได้ ในกลาง
เป็นสุขสุดตามทาง พุทธเจ้า
สะอาดสงบสว่าง พราวแผ้ว
หยุดนิ่งทุกค่ำเช้า จักได้สุดธรรม
ตะวันธรรม


วิธีใช้บุญ

ง่าย..แต่..ลึก 1



(เมื่อเราได้สวดมนต์บูชาพระรัตนตรัยกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ต่อจากนี้ไปตั้งใจเจริญสมาธิภาวนากันนะ............)
...เอาใจหยุดนิ่ง ๆ หรือทำความรู้สึกว่าอยู่ในกลางท้อง พร้อม
กับนึกถึงบุญที่เราทำผ่านมานับภพนับชาติไม่ถ้วนจนกระทั่งมาถึงวันนี้
แม้เราจะจำไม่ได้ว่าในอดีตชาติที่ผ่านมาเราทำบุญอะไร แต่แค่เพียง
เราจรดใจแล้วก็นึกนิดเดียวว่า บุญที่เราทำผ่านมาในอดีตนับภพนับ
ชาติไม่ถ้วน น้อยบ้าง ปานกลางบ้าง มากบ้าง พอเรานึก ใจซึ่งเป็น
ธาตุสำเร็จอยู่แล้วก็จะไปเชื่อมกับกระแสธารแห่งบุญ มารวมเป็น
ดวงบุญใส ๆ ติดอยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗


ใจเป็นธาตุสำเร็จ ถ้าเรานึกถึงใครบางคนที่ทำให้
เราขุ่นมัว นึกถึงคำพูดเรื่องราวทั้ง ๆ ที่เขาก็ไม่ได้รู้เรื่อง
เลย และเหตุการณ์ก็ผ่านมานานแล้ว พอนึกก็จะมี
อายตนะไปดึงดูดสิ่งเหล่านั้นมาทำให้เราขุ่นมัวได้
บุญก็เช่นเดียวกัน ถ้าเรานึกถึงบ่อย ๆ ซํ้า ๆ แม้กาล
เวลาผ่านมาเราจำไม่ได้ เพราะมันเป็นภพในอดีตก็ตาม
หรือปัจจุบันจำได้บ้างไม่ได้บ้างก็ตาม มันก็จะไปเชื่อมกัน
กระทั่งมาถึงบุญล่าสุดที่เราทำผ่านไปก็จะไปเชื่อมกัน
มารวมเป็นดวงบุญใส ๆ ติดอยู่ในศูนย์กลางกายฐานที่
๗ อยู่ในกลางท้องของเรา

ดวงบุญและคุณสมบัติของบุญ
ดวงบุญนี้จะกลมรอบตัวเหมือนดวงแก้วที่เจียระไนแล้ว ใส
บริสุทธิ์เหมือนเพชรหรือยิ่งกว่านั้น จะใส ๆ แล้วก็สว่างเหมือนดวง
อาทิตย์ยามเที่ยงวันหรือยิ่งกว่านั้น แต่ว่าใสเย็น ไม่แสบตา ไม่เคือง
ตา เหมือนแสงจันทร์ในคืนวันเพ็ญ แต่ว่ามันเย็นกว่านั้นนะ เย็นสบาย
ไม่ใช่เย็นหนาวยะเยือก แต่มันเย็นสบาย
ดวงบุญนี้เป็นบ่อเกิดแห่งความสุขและความสำเร็จในชีวิต
ของเราตั้งแต่ปุถุชนจนกระทั่งเป็นพระอริยเจ้า เช่น ทำให้เรามี

รูปสมบัติที่งดงาม แข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ หรือมีโรคน้อย
อายุยืนยาว ทำให้เรามีโภคทรัพย์สมบัติ มีคุณสมบัติ มีความฉลาด
มีความสามารถอะไรต่าง ๆ เหล่านั้นเป็นต้น

บุญเป็นสิ่งที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จทั้งมวลของชีวิต บางที
เราเรียนจบอย่างหนึ่ง จบแล้วก็ไม่ได้ใช้วิชาที่เรียนมา แต่กลับไป
ประสบความสำเร็จอีกอย่างหนึ่ง ทุกอย่างก็เป็นเรื่องของบุญนั่น
แหละ บางครั้งก็ได้มาอย่างง่าย ๆ บางครั้งก็ต้องหนึ่งสมองสองมือ
เป็นต้น แต่ทุกอย่างมีบุญเป็นฉากหลังที่คอยเป็นเครื่องสนับสนุน
ให้เราประสบความสำเร็จในชีวิต ในธุรกิจการงาน ในการศึกษา
เล่าเรียน ปราศจากอุปสรรคต่าง ๆ หรือมีอุปสรรคน้อยเป็นต้น

บุญทำให้เราไปเกิดในสวรรค์ ในเทวโลก มีทิพยสมบัติมากมาย
มีบริวารอันเป็นทิพย์ เป็นต้น แล้วก็ยังส่งผลให้เราได้บรรลุมรรคผล
นิพพาน ไปสู่อายตนนิพพานได้ ทั้งหมดมีบุญเป็นเครื่องสนับสนุน
ให้เราไปถึงตรงนั้น

บุญคือสิ่งที่เราได้ทำมา ไม่ว่าจะเป็นทาน ศีล ภาวนา เป็นต้น
จะมารวมอยู่เป็นดวงบุญใส ๆ ติดอยู่ในกลางกาย ให้นึกถึงบุญนี้
นึกเอาไว้เรื่อย ๆ บุญถึงจะสู้กับบาปอกุศลได้ บาปอกุศลก็จะส่งผล
ตรงกันข้ามให้เรามีอุปสรรคของชีวิต
เพราะฉะนั้นตอนนี้เราก็นึกถึงดวงบุญใส ๆ ติดอยู่ในศูนย์
กลางกาย ทำให้ติดเป็นอุปนิสัย และให้เป็นจุดเริ่มต้นที่เราจะหยุดใจ
เชื่อมกับศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ และเมื่อใจหยุดนิ่ง ๆ นุ่ม ๆ เบา ๆ
สบายก็จะเคลื่อนเข้าไปสู่ภายใน

การนึกถึงบุญบ่อย ๆ จะทำให้บาปไม่ได้ช่อง แล้ว
จะทำให้ใจเรามีปีติ มีความสุข มีความเบิกบาน มีความ
ภาคภูมิใจในกาลเวลาที่ผ่านมาที่เราได้ใช้ทุกสิ่งที่เรา
มีอยู่นั้นเป็นไปเพื่อการสร้างบุญ สร้างคุณงามความดี
เช่นเดียวกับพระอริยเจ้า พระอรหันต์ พระสัมมา
สัมพุทธเจ้า หรือบัณฑิตนักปราชญ์ในกาลก่อน

เพราะฉะนั้นตอนนี้เราก็นึกถึงอย่างสบาย ๆ ไม่ชัดเจนก็ไม่เป็นไร
ให้มีความรู้สึกว่า มีดวงบุญอยู่ในกลางท้องของเราที่เป็นดวงใส ๆ
อย่างนี้ไปก่อนก็ได้

อย่าไปเพ่ง อย่าไปจ้อง อย่าไปเค้นภาพ เพราะจะทำให้เรา
เกิดความตึงเครียดที่ระบบประสาทและกล้ามเนื้อ แล้วก็ไม่มีผลดี
ต่อการปฏิบัติ

เรามีวัตถุประสงค์จะให้ใจไปหยุดนิ่ง นุ่ม เบา สบาย ๆ ที่
ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ด้วยการเริ่มนึกถึงบุญเท่านั้น ส่วนชัด
หรือไม่ชัดนั้นเป็นเรื่องที่ใจเราละเอียดแค่ไหน หยุดนิ่งไปได้
ในระดับไหน ถ้าละเอียดมาก มันก็จะเห็นชัดเจนขึ้นมาเอง
ถ้าละเอียดปานกลางความชัดเจนก็จะหย่อนลงมา ละเอียดน้อย
ก็แค่มีความรู้สึกว่ามีอยู่

แต่ ณ จุดที่เราเริ่มต้นจากความคิดที่ว่า “มีอยู่” นี้จะทำให้
เข้าไปถึง “มีจริง” ต่อไป ถ้าเราให้โอกาสตัวเราโดยนึกอย่างนี้บ่อย ๆ ในทุกอิริยาบถ นั่ง นอน ยืน เดิน ในทุก ๆ กิจกรรม ไม่ว่าจะทำมาหากิน
ครองเรือน หรือศึกษาเล่าเรียนก็ตามให้โอกาสตัวเราเองบ่อย ๆ ในการนึกถึงบุญ ไม่ช้าใจก็จะละเอียดขึ้นเอง ดวงบุญก็จะค่อย ๆ ชัดขึ้น ๆ แล้วก็จะเห็นชัดแจ๋วแจ่มแจ้งขึ้นมาในกลางท้องกลางกายของเรา ซึ่งในตอนนั้นความรู้สึกว่ามีร่างกายมันหายไป แต่ความรู้สึกว่า อยู่ตรงกลาง นั้นมีอยู่

สิ่งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการฝึกฝน ทำซํ้า ๆ ให้ความสำคัญต่อสิ่งนี้
ยิ่งกว่าชีวิตของเรา หรืออย่างน้อยก็เสมอเหมือนชีวิตของเรา
นึกซํ้า ๆ ไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวใจก็จะค่อย ๆ คุ้นกับศูนย์กลางกายฐาน
ที่ ๗ และก็จะเคยชินในที่สุด เพราะฉะนั้นตอนนี้เราก็นึกไป
อย่างสบาย ๆ

อย่าลืมปรับเปลือกตา ท่านั่ง การผ่อนคลาย ทำความรู้สึก
นิ่ง ๆ นุ่ม ๆ เบา ๆ สบาย ๆ ไม่ต้องทำอะไรที่นอกเหนือจากนี้
นี่คือวิธีการเดียวที่จะทำให้เราเห็นดวงบุญชัด แล้วใจก็จะเคลื่อน
เข้าไปสู่ภายใน เข้าไปถึงพระรัตนตรัยในตัว ไม่มีอะไรที่จะง่ายไปกว่านี้อีกแล้ว ที่จะทำให้เราสมหวัง สมปรารถนาในชีวิต และถูกวัตถุประสงค์ของการมาเกิดเป็นมนุษย์

สิ่งที่ยากกว่านี้ที่เจอปัญหาและแรงกดดัน เรายังให้ความสำคัญ
ทุ่มเทชีวิตจิตใจเพื่อการนั้น ทั้งที่ประโยชน์ที่ได้รับก็ไม่ค่อยจะคุ้มค่า
เท่าไรกับสิ่งที่เราสูญเสียไป เช่น เงินตรา เวลาและอารมณ์ เป็นต้น
เพราะฉะนั้นสิ่งที่คุ้มค่าสมกับที่เสียเงินตรา เวลา อารมณ์ ไม่มีอะไร
ที่จะง่ายหรือดีที่สุดกว่าการทำใจหยุดนิ่งเฉย ๆ ตรงนี้

หยุดเป็นตัวสำเร็จที่จะทำให้เราสมหวังในชีวิต พบกับความ
พึงพอใจอันสูงสุด เข้าถึงความสุขที่แท้จริง ความบริสุทธิ์ของใจ อานุภาพของใจ ดวงปัญญา มหากรุณา ความรักและปรารถนาดีต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย โดยไม่จำกัดเชื้อชาติศาสนาและเผ่าพันธุ์อย่างแท้จริง

เพราะฉะนั้นตอนนี้ให้เราหยุดใจ นิ่ง นุ่ม เบา สบาย ผ่อนคลาย
ตอนนี้เรากำลังนึกถึงดวงบุญเราก็นึกไป แล้วก็ประคองใจด้วยบริกรรม
ภาวนา สัมมา อะระหัง เรื่อยไป เวลาที่เหลืออยู่นี้เราก็ฝึกฝนกันไป
ต่างคนต่างนั่งกันไปเงียบ ๆ นะ
อาทิตย์ที่ ๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๐

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Facebook